แนวทางพัฒนาการบริหารการเรียนรู้แบบรับใช้สังคมของโรงเรียนนานาชาติ

ผู้แต่ง

  • มณีอร คอร์เดช นิสิตมหาบัณฑิตสาขาวิชาบริหารการศึกษา ภาควิชา นโยบาย การจัดการและความเป็นผู้นำทางการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • นันทรัตน์ เจริญกุล สาขาวิชาบริหารการศึกษา ภาควิชา นโยบาย การจัดการและความเป็นผู้นำทางการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

DOI:

https://doi.org/10.14456/ojed.2020.35

คำสำคัญ:

การเรียนรู้แบบรับใช้สังคม, หลักสูตร IB

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและปัญหาของการบริหารการเรียนรู้แบบรับใช้สังคมของโรงเรียนนานาชาติ และ 2) นำเสนอแนวทางพัฒนาการบริหารการเรียนรู้แบบรับใช้สังคมของของโรงเรียนนานาชาติ ด้วยระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสม (mixed Method) โดยได้ทำการศึกษากับโรงเรียนนานาชาติระบบ International Baccalaureate ที่ใช้หลักสูตร IB ในทุกระดับชั้น (Full IB School) จำนวน 2 โรงเรียน และทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักเรียนโดยใช้แบบสอบถามอัตลักษณ์ผู้เรียนตามคุณลักษณะของ IB Learner Profile ส่วนผู้บริหารโรงเรียน และครูที่เป็นผู้ดูแลโครงการรับใช้สังคมได้ทำการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง

ผลการวิจัยพบว่าจากการจัดการเรียนรู้แบบรับใช้สังคมทำให้นักเรียนมีอัตลักษณ์ที่พึงประสงค์ตามหลักเกณฑ์  ของหลักสูตร IB Learner Profile ทั้ง 10 ด้านในระดับมาก สอดคล้องกับข้อมูลจากผู้บริหารโรงเรียน และครูที่เป็นผู้ดูแลโครงการที่ระบุว่ามีความพึงพอใจต่อสภาพการจัดการเรียนรู้แบบรับใช้สังคมในปัจจุบัน และการจัดการเรียนรู้แบบรับใช้สังคมสามารถส่งผลกระทบที่ดีต่อนักเรียน โดยอัตลักษณ์ที่นักเรียนคิดว่าตนเองมีสูงสุดคือ ด้านใจกว้าง (open-minded) ส่วนอัตลักษณ์ด้านการเป็นผู้กล้าเผชิญสิ่งใหม่ (risk-takers) ความคิดเห็นว่าตนเองมีน้อยสุดเมื่อเทียบทั้ง 10 ด้าน ทั้งนี้ผู้วิจัยได้เสนอแนวทางพัฒนาการบริหารการเรียนรู้แบบรับใช้สังคมของโรงเรียนนานาชาติ จำนวน 7 แนวทาง โดยแนวทางทั้งหมดจะเน้นที่ระยะของการกำหนดแนวทางและขั้นตอนในการจัดการเรียนรู้แบบรับใช้สังคมที่ทุกฝ่ายร่วมกันกำหนด เพื่อให้มีแนวทางและขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานกลางในการยึดปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของการจัดการเรียนรู้แบบรับใช้สังคม

เอกสารอ้างอิง

นวรัตน์ รามสูต และ บัลลังก์ โรหิตเสถียร. (2559, 1 ธันวาคม). การพัฒนานักศึกษาสู่ Thailand 4.0. กระทรวงศึกษาธิการ. https://www.moe.go.th/การพัฒนานักศึกษาสู่-thailand-4-0

ศักดิ์ชัย นิรัญทวี. (2544). การเรียนรู้ด้วยการรับใช้สังคม. สำนักงานโครงการปฏิรูปอุดมศึกษา. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2542, 14 สิงหาคม). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์. https://person.mwit.ac.th/01Statutes/NationalEducation.pdf

สุวิทย์ เมษินทรีย์. (2559, 2 พฤษภาคม). ไขรหัส “ประเทศไทศ 4.0” สร้างเศรษฐกิจใหม่ก้าวข้ามกับดักรายได้ ปานกลาง. ไทยรัฐฉบับพิมพ์. http://www.thairath.co.th/content/613903

Astin, A. W., Vogelgesang, L. J., Ikeda, E. K., & Yee, J. A. (2000). How service learning affects students. Higher Education Research Institute. https://www.heri.ucla.edu/PDFs/HSLAS/HSLAS.PDF

Eyler, J. & Giles, D. E. (1999). Where’s the learning in service-Learning?. Jossey-Bass.

Hébert, A., & Hauf, P. (2015). Student learning through service learning: Effects on academic development, civic responsibility, interpersonal skills and practical skills. Active Learning in Higher Education, 16(1), 37-49. https://doi.org/10.1177/1469787415573357

Kelshaw, T. (2009). Partnerships for service-learning; Impacts on communities and students. Jossey-Bass A Wiley Imprint.

Kaye, C. B. (2013). The complete guide to service learning: Proven, practical ways to engage students in civic responsibility, academic curriculum, & social action. Free Spirit Publishing.

Yorio, P. L., & Ye, F. (2012). A meta-analysis on the effects of service-learning on the social, personal, and cognitive outcomes of learning. Academy of Management Learning & Education, 11(1), 9-27. https://doi.org/10.5465/amle.2010.0072

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-12-01

รูปแบบการอ้างอิง

คอร์เดช ม., & เจริญกุล น. (2020). แนวทางพัฒนาการบริหารการเรียนรู้แบบรับใช้สังคมของโรงเรียนนานาชาติ. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 15(2), OJED1502028 (12 pages). https://doi.org/10.14456/ojed.2020.35

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย