การวิเคราะห์องค์ประกอบสมรรถนะดิจิทัลสำหรับครู

ผู้แต่ง

  • กณิชชา ศิริศักดิ์ นิสิตมหาบัณฑิตสาขาวิชาวิธีวิทยาการวิจัยการศึกษา ภาควิชาวิจัยและจิตวิทยาการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ดวงกมล ไตรวิจิตรคุณ สาขาวิชาวิธีวิทยาการวิจัยการศึกษา ภาควิชาวิจัยและจิตวิทยาการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

DOI:

https://doi.org/10.14456/ojed.2020.37

คำสำคัญ:

สมรรถนะดิจิทัล, นิสิต, นักศึกษาครู

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์องค์ประกอบสมรรถนะดิจิทัลสำหรับครู และ 2) เพื่อพัฒนาเครื่องมือการวัดสมรรถนะดิจิทัลของนิสิตครุศาสตร์ เป็นการวิจัยผสมวิธี แบบ exploratory sequential mixed-methods research design ระยะที่ 1 เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพเพื่อการวิเคราะห์องค์ประกอบของสมรรถนะดิจิทัลที่เหมาะสมสำหรับครู จากการสังเคราะห์เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีการศึกษา จำนวน 10 คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) ระยะที่ 2 เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ตัวอย่างวิจัย คือ นิสิตคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 3 จำนวน 55 คน เครื่องมือวิจัย คือ แบบวัดสมรรถนะดิจิทัลสำหรับนิสิตครุศาสตร์ การวิเคราะห์ข้อมูลประกอบไปด้วยวิธีการประมาณค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค และการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. สมรรถนะดิจิทัลสำหรับครูประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสื่อและเทคโนโลยีดิจิทัล องค์ประกอบที่ 2 ทักษะการใช้สื่อและเทคโนโลยีดิจิทัล องค์ประกอบที่ 3 การเลือกใช้สื่อและเทคโนโลยีดิจิทัล องค์ประกอบที่ 4 การผลิตสื่อและเทคโนโลยีดิจิทัล และองค์ประกอบที่ 5 จรรยาบรรณในการใช้สื่อ 2. ผลการพัฒนาเครื่องมือในการวัดสมรรถนะดิจิทัลของนิสิตครุศาสตร์ แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้ 2.1 แบบวัดทั้งฉบับมีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค .944 ซึ่งถือว่ามีค่าความเที่ยงอยู่ในระดับเหมาะสม 2.2 แบบวัดที่สร้างขึ้นมีความตรงเชิงโครงสร้าง โมเดลมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยพิจารณาจากค่าไคสแควร์ที่แตกต่างจากศูนย์อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (X2(3, N = 55) = 1.843, p > .05)

เอกสารอ้างอิง

เทพยพงศ์ เศษคึมบง. (2554). ผลการเรียนด้วยอีเลิร์นนิ่งแบบเรียนรู้ร่วมกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่มีต่อความสามารถทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์. Veridian E-Journal, 5(2), 569-584.

ศิริชัย กาญจนวาสี. (2548). ทฤษฎีการประเมิน. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สันติพจน์ กลับดี. (2558, 5 มิถุนายน). ทักษะขั้นพื้นฐานเพื่อการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. http://www.aseanthai.net/sub_convert.php?nid=3314

สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา. (2556). ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556. กระทรวงศึกษาธิการ.

สุกานดา จงเสริมตระกูล. (2556). ระบบการเรียนแบบกลุ่มสืบสอบบนแหล่งทรัพยากรด้านการศึกษาแบบเปิดเพื่อส่งเสริมการรู้สารสนเทศดิจิทัลและการรับรู้ทางจริยธรรมทางสารสนเทศของนิสิตนักศึกษาครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ [วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต]. Chulalongkorn University Intellectual Repository (CUIR). http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/43162

อดิศักดิ์ จำปาทอง. (2556, 21 มีนาคม). Digital sphere โลกยุคใหม่ของสื่อดิจิทัล. Knowledge Management Nation University. http://blog.nation.ac.th/?p=2493

Calvani, A., Cartelli, A., Fini, A., & Ranieri, M. (2009). Models and instruments for assessing digital competence at school. Journal of E-learning and Knowledge Society, 4(3), 183-193.

Europe commission. (2014). A common European digital competence framework for citizens. https://openeducationeuropa.eu/sites/default/files/DIGCOMP%20brochure%202014%20.pdf

Hair, J. F., Anderson, R. E., Babin, B. J., & Black, W. C. (2010). Multivariate data analysis: A global perspective. Pearson.

Hatlevik, O. E., Guðmundsdóttir, G. B., & Loi, M. (2015a). Digital diversity among upper secondary students: A multilevel analysis of the relationship between cultural capital, self-efficacy, strategic use of information and digital competence. Computers & Education, 81, 345-353. https://doi.org/10.1016/j.compedu.2014.10.019

Hatlevik, O. E., Guðmundsdóttir, G. B., & Loi, M. (2015b). Examining factors predicting students’ digital competence. Journal of Information Technology Education, 14, 123-137. https://doi.org/10.28945/2126

Hatlevik, O. E., Ottestad, G., & Throndsen, I. (2015c). Predictors of digital competence in 7th grade: A multilevel analysis. Journal of Computer Assisted Learning, 31(3), 220-231. https://doi.org/10.1111/jcal.12065

Higgins, S., Xiao, Z., & Katsipataki, M. (2012). The impact of digital technology on learning: A summary for the education endowment foundation. Education Endowment Foundation and Durham University.

Krumsvik, R. J. (2008). Situated learning and teachers’ digital competence. Education and Information Technologies, 13(4), 279-290.

Krumsvik, R. J., & Jones, L. Ö. (2013). Teachers’ digital competence in upper secondary school: (Work in Progress). International Conference on Information Communication Technologies in Education, 171-183.

Li, Y., & Ranieri, M. (2010). Are digital natives really digitally competent? A study on Chinese teenagers. British Journal of Educational Technology, 41(6), 1029-1042. https://doi.org/10.1111/j.1467-8535.2009.01053.x

Maderick, J. A., Zhang, S., Hartley, K., & Marchand, G. (2016). Preservice teachers and self-assessing digital competence. Journal of Educational Computing Research. 54(3), 326-351. https://doi.org/10.1177/0735633115620432

Mareco, D. (2017, 28 July). 10 Reasons today’s student need technology in the classroom. https://www.securedgenetworks.com/blog/10-reasons-today-s-students-need-technology-in-the-classroom

Meyers, E. M., Erickson, I., & Small, R. V. (2013). Digital literacy and informal learning environments: An introduction. Learning, Media and Technology, 38(4), 355-367.

Svensson, M., & Baelo, R. (2015). Teacher students’ perceptions of their digital competence. Procedia-Social and Behavioral Sciences, 180, 1527-1534. https://doi.org/10.1016/j. sbspro.2015.02.302

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-12-09

รูปแบบการอ้างอิง

ศิริศักดิ์ ก., & ไตรวิจิตรคุณ ด. (2020). การวิเคราะห์องค์ประกอบสมรรถนะดิจิทัลสำหรับครู. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 15(2), OJED1502030 (11 pages). https://doi.org/10.14456/ojed.2020.37

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย