ผลการจัดการเรียนรู้ด้วยการสืบสอบโดยใช้เกมเป็นฐานที่มีต่อความสามารถในการให้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
DOI:
https://doi.org/10.14456/ojed.2022.40คำสำคัญ:
การให้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์, การสืบสอบโดยใช้เกมเป็นฐานบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการให้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระหว่างก่อนและหลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยการสืบสอบโดยใช้เกมเป็นฐานและ 2) ศึกษาความสามารถในการให้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์ระหว่างการจัดการเรียนรู้ด้วยการสืบสอบโดยใช้เกมเป็นฐาน ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 40 คน ของโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษแห่งหนึ่งในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวัดความสามารถในการให้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์ แบบสัมภาษณ์แบบไม่เป็นทางการ บันทึกการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้และเกมการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีและการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยการสืบสอบโดยใช้เกมเป็นฐานมีค่าเฉลี่ยคะแนนความสามารถในการให้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยการสืบสอบโดยใช้เกมเป็นฐานให้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์ระหว่างเรียนในระยะหลังดีขึ้นกว่าระยะแรก โดยมีร้อยละการเพิ่มขึ้น ดังนี้ 1) การพิจารณาและใช้หลักฐาน ร้อยละ 24.80 2) การพยากรณ์ ร้อยละ 20.48 3) การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างหลักฐานและข้อสรุป ร้อยละ 28.03 และ 4) การสร้างข้อสรุป ร้อยละ 28.67
เอกสารอ้างอิง
ณรงค์ชัย พงษ์ธะนะ. (2559). ผลของการจัดการเรียนการสอนแบบโต้แย้งและประเมินที่มีต่อความสามารถในการให้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชีววิทยาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พิมพ์พันธ์ เดชะคุปต์. (2544). การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ: แนวคิด วิธีและเทคนิคการสอน 1. เดอะมาสเตอร์กรุ๊ฟแมนเนจเม้นท์.
ลฎาภา สุทธกุล และ ลือชา ลดาชาติ. (2556). การให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วารสารมหาวิทยาลัยนเรศวร, 21(3), 107-123.
Benford, R., & Lawson, A. E. (2001). Relationships between effective inquiry use and the development of scientific reasoning skills in college biology labs. https://eric.ed.gov/?id=ED456157
Chang, Y. H., & Lin, B. S. (2012). A ubiquitous system supporting game-based Inquiry learning. International Journal of Mobile Communications, 10(2), 190-212. https://doi.org/10.1504/IJMC.2012.045673
Chee, Y. S., & Tan, K. C. D. (2012). Becoming chemists through game-based inquiry learning: The case of legends of alkhimia. Electronic Journal of e-Learning, 10(2), 185-198.
Chinn, C. A., & Malhotra, B. A. (2002). Epistemologically authentic inquiry in schools: A theoretical framework for evaluating inquiry tasks. Science Education 86(2), 175-218. https://doi.org/10.1002/sce.10001
Fitzgerald, M., Danaia, L., & McKinnon, D. H. (2019). Barriers inhibiting inquiry-based science teaching and potential solutions: perceptions of positively inclined early adopters. Science Education, 49(2), 543-566. https://doi.org/10.1007/s11165-017-9623-5
Goodwin, M., Kramer, C., & Cashmore, A. (2012). The ‘ethics committee': A practical approach to introducing bioethics and ethical thinking. Journal of Biological Education, 46(3), 188-192. https://doi:10.1080/00219266.2012.688846
Herranen, J., & Aksela, M. (2019). Student-question-based inquiry in science education. Science Education, 55(1), 1-36.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
