แนวทางการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขนาดเล็ก สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

ผู้แต่ง

  • ทอรุ้ง บุญส่ง คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • นันทรัตน์ เจริญกุล คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

DOI:

https://doi.org/10.14456/ojed.2022.30

คำสำคัญ:

การบริหารงานวิชาการ, แนวทางการบริหารงานวิชาการ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์ศึกษาสภาพปัจจุบัน,สภาพที่พึงประสงค์และแนวทางการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขนาดเล็ก สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้อำนวยการสถานศึกษา 37 คน ครูผู้สอน 254 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และการสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์เนื้อหาแนวทางการบริหารงานวิชาการ ได้แก่ 1) ด้านการนิเทศการศึกษา คือ สถานศึกษาควรมีการประชุมชี้แจงแนวทางการพัฒนาเครื่องมือนิเทศให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดให้เหมาะสมกับเนื้อหาวิชาที่สอนตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยอบรมและพัฒนาร่วมกันออกแบบ จัดทำเครื่องมือนิเทศ โดยผู้บริหารหรือหัวหน้าฝ่ายควรติดตามการนิเทศอยู่สม่ำเสมอ 2) ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา คือ สถานศึกษาควรมีการกำหนดการประชุมทุกภาคเรียน เพื่อนำเสนอผลงานวิจัยในชั้นเรียนของครูและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในฝ่ายงาน ภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อทำให้ทราบปัญหาในการทำวิจัยในชั้นเรียน และนำไปปรับปรุงในการทำวิจัยในครั้งต่อไป 3) ด้านการจัดการเรียนการสอน คือ สถานศึกษาควรจัดอบรมครูระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้ครูออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อให้แผนการจัดการเรียนรู้มีความรู้ของกลุ่มสาระอื่น ๆ แทรกด้วย ทำให้การจัดการเรียนการสอนสามารถปฏิบัติได้จริงและมีการบูรณาการเกิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เอกสารอ้างอิง

กมลพร บัณฑิตยานนท์. (2544). การสอนรายบุคคล:อีกมิติหนึ่งของการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. บพิตรการพิมพ์.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. สำนักนายกรัฐมนตรี.

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2557). รายงานการวิเคราะห์ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาสังกัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น. กระทรวงมหาดไทย.

นันทรัตน์ เจริญกุล. (2551). การบริหารสถานศึกษาที่ถ่ายโอนไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารครุศาสตร์, 36(1). 1-17.

ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2553). การบริหารงานวิชาการ. พิมพ์ดี.

พูนภัทรา พูลผล. (2554). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อเตรียมผู้เรียนสู่ความเป็นพลเมืองโลก [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

มนตรี มณีวงษ์, ธรินธร นามวรรณ, และ ประทวน บุญรักษา. (2558). ปัจจัยเชิงระบบที่ส่งเสริมการบริหารงานวิชาการโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารคณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม [ฉบับพิเศษ], 9, 510-526.

เลขาธิการสภาการศึกษา. (2551). รายงานการติดตามการจัดการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปี 2551. โรงพิมพ์เพลินสตูดิโอ.

วณิสา ถิ่นทัพไทย, สวาสดิ์ ตอพล, และ สุภาพร พงศภิญโญโอภาส. (2556). แนวทางพัฒนาการบริหารงาน วิชาการของโรงเรียนที่ขาดแคลนครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตาก เขต 2. วารสารการวิจัย กาสะลองคำ, 7(1), 157-167.

ศิริชัย กาญจนวาสี. (2555). สถิติประยุกต์สาหรับการวิจัย. โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สมปอง เส็งดอนไพร. (2554). การศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สมาน อัศวภูมิ. (2551). การบริหารสมัยใหม่. อุบลกิจออฟเซท.

สุภารัตน์ วีรสัฒนา, สุรเชต น้อยฤทธิ์, และ พูลสวัสดิ์ นาคเสน. (2557). การบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 3. วารสารคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม [ฉบับพิเศษ], 968-980.

สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. (2555). รายงานสรุปการถ่ายโอนสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่ อปท. ปี 2549 – 2555. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี.

Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30, 607-610.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-05-09

รูปแบบการอ้างอิง

บุญส่ง ท., & เจริญกุล น. (2022). แนวทางการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขนาดเล็ก สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 17(1), OJED1701031. https://doi.org/10.14456/ojed.2022.30

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย