ทัศนคติ ความวิตกกังวลและการจัดการของผู้สอบ TOEIC ในเขตกรุงเทพมหานคร
คำสำคัญ:
ทัศนคติ ความวิตกกังวล การสอบโทอิคบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับและเปรียบเทียบทัศนคติ ความวิตกกังวล และการจัดการความวิตกกังวล 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติ ความวิตกกังวล และการจัดการของผู้สอบโทอิคในเขตกรุงเทพมหานคร และ 3) พัฒนาแนวทางการสร้างความพร้อมให้กับผู้สอบโทอิคในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้สอบโทอิคในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้คือแบบสำรวจความคิดเห็น มีค่าความเชื่อมั่น 0.95 และแบบสัมภาษณ์แนวทางการสร้างความพร้อมให้กับผู้สอบโทอิค สำหรับผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 9 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์คือค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวและการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า 1) ทัศนคติ ความวิตกกังวล และการจัดการความวิตกกังวล ในภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก ค่าเฉลี่ย 3.64 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.64 และจากการเปรียบเทียบพบว่าอายุต่างกัน, สาขาวิชาเอกต่างกัน, จำนวนครั้งในการสอบต่างกัน, เกรดเฉลี่ยภาษาอังกฤษต่างกัน และประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษต่างกันในภาพรวมมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ผลการศึกษาความสัมพันธ์พบว่า ทัศนคติมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความวิตกกังวลกับข้อสอบการฟังภาษาอังกฤษ (r = 0.460, p = .000) ความวิตกกังวลกับข้อสอบการอ่านภาษาอังกฤษ (r = 0.380, p = .000) การจัดการความวิตกกังวลกับข้อสอบการฟังภาษาอังกฤษ (r = 0.315, p = .000) และการจัดการความวิตกกังวลกับข้อสอบการอ่านภาษาอังกฤษ (r = 0.305, p = .000) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05