การบริหารการเปลี่ยนแปลงกับการพัฒนาองค์การในยุคประเทศไทย 4.0
คำสำคัญ:
การบริหารการเปลี่ยนแปลง, การพัฒนาองค์การ, ประเทศไทย 4.0บทคัดย่อ
ในยุคโลกาภิวัตน์มีการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็วและผันผวนอย่างมากมาย ซึ่งจะเห็นได้จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก อันส่งผลกระทบต่อภาครัฐและภาคเอกชนของไทยอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาดังกล่าวจะพบว่าองค์การต่าง ๆ จำเป็นต้องเร่งปรับตัวเพื่อเตรียมรับสถานการณ์องค์การใดที่ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ก็ต้องล้มเลิกกิจการไป ส่วนองค์การที่ยังสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ก็ต้องปรับตัวและปรับกลยุทธ์ในการบริหารเพื่อความอยู่รอดต่อไป แต่การพัฒนาองค์การย่อมมี
กลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงและอาจเกิดการต่อต้านขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนี้เอง องค์การจึงต้องกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) คือ ภาพในอนาคตขององค์การที่เกิดจากการที่ผู้นำ สมาชิก และกลุ่มลูกค้าขององค์การ ร่วมกันวาดฝันหรือจินตนาการโดยมีพื้นฐานอยู่บนความจริงในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับมนุษย์ นั่นคือ มนุษย์จะเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา โดยเป็นผู้ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมดำเนินการ และร่วมรับผลที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม การพัฒนาองค์การจะมีอันตรายอันใหญ่หลวง หากว่ามีการเรียกร้องในเรื่องประสิทธิภาพมากเกินไป เพราะประสิทธิภาพจะทำให้คนมีสถานภาพของความเป็นคนลดน้อยลงเหลือเพียงแค่เป็นสิ่งของเท่านั้น สิ่งที่ทุกคนไม่ควรลืมก็คือ คนไม่ใช่สัตว์เศรษฐกิจ ความหมายของคนมีขอบข่ายมากมายกว่าเศรษฐกิจ พรมแดนของคนควรจะครอบคลุมถึงค่านิยมส่วนตัว ความรู้ ศีลธรรม วิญญาณ และร่างกายอีกด้วย ดังนั้นการพัฒนาองค์การจึงจะลืมความสำคัญของจิตใจมนุษย์ไปไม่ได้ โดยมีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management) กับการพัฒนาองค์การในยุคประเทศไทย4.0 อยู่ 5 ประการสำคัญที่ล้วนมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ดังนี้ การสร้างความรู้สึกว่าเป็นเจ้าขององค์การ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การสร้างค่านิยมให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์การ ศูนย์ความรับผิดชอบและการมุ่งเน้น ความคล่องตัว
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์จะเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารธุรกิจปริทัศน์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว

