การวิเคราะห์ความต้องการกำลังคนด้านธุรกิจจีน ของสถานประกอบการเพื่อรองรับการเปิดเขตการค้าเสรี อาเซียนและจีน
คำสำคัญ:
ศักยภาพ, จังหวัดสมุทรปราการ, ประชาคมอาเซียนบทคัดย่อ
รายงานวิจัยเรื่อง การวิเคราะห์ความต้องการกำลังคนด้านธุรกิจจีนของสถานประกอบการ เพื่อรองรับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนและจีน มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์สภาพการณ์และ ผลกระทบจากการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีนที่มีต่อความต้องการกำลังคนด้านธุรกิจจีน ศึกษา ความต้องการกำลังคนด้านธุรกิจจีนของสถานประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม ศึกษาศักยภาพ การผลิตกำลังคนด้านธุรกิจจีนรองรับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีนของสถาบันการศึกษาใน ระดับอุดมศึกษา และกำหนดแนวทางเชิงกลยุทธ์การเตรียมความพร้อมของสถาบันการศึกษาใน การผลิตบัณฑิตทางด้านธุรกิจจีนที่มีคุณลักษณะสอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการ ในปัจจุบัน โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณจากการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก แหล่งทุติยภูมิและแหล่งปฐมภูมิ และการสัมภาษณ์ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย เจ้าของสถาน ประกอบการหรือตัวแทนผู้บริหาร ผู้บริหารหรือตัวแทนสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร ธุรกิจไทย-จีน รวมจำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา การแจงแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สรุปผลที่ได้จากการวิจัยพบว่า จุดอ่อนหรือปัญหาอุปสรรคสำคัญของผู้ประกอบการไทย เมื่อมีการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน คือ ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของตลาดอาเซียนและ จีนร้อยละ 38.9 รองลงมาได้แก่ คู่แข่งขันทางธุรกิจมีศักยภาพและความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี เหนือกว่า ร้อยละ 32.3 ความไม่เข้มแข็งของเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมของไทย ร้อยละ 17.7 ไม่มีประสบการณ์ทางธุรกิจในประเทศอาเซียนและจีน ร้อยละ 9.1 ความจำเป็นเร่งด่วน ของภาครัฐที่จะต้องดำเนินการเมื่อมีการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนและจีนคือ การพัฒนาศักยภาพ ทางด้านกำลังคนเข้าสู่ตลาด แรงงาน ( = 1.49) รองลงมาได้แก่ การพัฒนาประสิทธิภาพด้าน ระบบโลจิสติกส์ (
= 1.44) การแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการเปิดเขตการค้า เสรี (
= 1.34) การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของสถานประกอบการด้านการคุณภาพสินค้า (
= 1.33) ในด้านความคาดหวังของสถานประกอบการที่มีต่อสถาบันการศึกษาในการผลิต บัณฑิตด้านธุรกิจจีน เพื่อรองรับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน คือ มีความรู้ในศัพท์เทคนิค เกี่ยวกับธุรกิจอาเซียนและจีน ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้จริง (
= 1.21) สามารถพูดภาษาจีน หรือภาษาประเทศอาเซียนเชิงธุรกิจได้ (
= 1.14) ผลิตบัณฑิตที่สอดคล้องกับความต้องการของ สถานประกอบการ (
= 1.10) เน้นการเรียนรู้ทางทฤษฎีควบคู่กับการปฏิบัติ เช่น การฝึกงานใน สถานประกอบการ (
= 0.96) รายวิชาในหลักสูตรธุรกิจจีนที่มีความสำคัญต่อการนำมาใช้ในการ ทำงาน ด้านวิชาเอกบังคับ มีความคิดเห็นอยู่ในระดับจำเป็น (
= 1.82, S.D. = 0.448) โดย รายวิชาที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดมีเพียงรายวิชาเดียวคือ วิชาสัมมนาธุรกิจจีน (
= 2.08) รองลงมา ได้แก่ วิชาพัฒนาการและการปฏิรูประบบเศรษฐกิจจีน (
= 1.98) รายวิชาที่ได้คะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด มีเพียง 1 รายวิชา ได้แก่ วิชาการสื่อสารภาษาจีนเชิงธุรกิจ (
= 1.54) รายวิชาในหลักสูตรธุรกิจจีน ที่มีความสำคัญต่อการนำมาใช้ในการทำงาน ด้านวิชาเอกเลือก มีความจำเป็น (
= 1.67, S.D. = 0.471) รายวิชาที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดมีเพียงรายวิชาเดียวคือ วิชาการจัดการข้ามวัฒนธรรมไทย-จีน (
= 2.05) รองลงมา ได้แก่ ภูมิศาสตร์กายภาพจีนเชิงธุรกิจ (
= 2.04) คุณลักษณะของบัณฑิตที่ พึงประสงค์หรือมีความจำเป็นในการทำงาน มีความคิดเห็นอยู่ในระดับจำเป็นน้อย (
= 1.31, S.D. = 0.396) คุณลักษณะที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดมีเพียงคุณลักษณะเดียวคือ กล้าแสดงความคิดเห็น (
= 1.48) รองลงมา ได้แก่ ความอ่อนน้อมถ่อมตน (
= 1.46) และความซื่อสัตย์ (
= 1.20)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์จะเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารธุรกิจปริทัศน์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว

