เบื้องลึกของการเป็นข้าราชการ: แรงจูงใจในการบริการสาธารณะและสวัสดิการ

ผู้แต่ง

  • เบญจธรรม ดิสกุล สาขาวิชาการบริหารองค์การ การประกอบการและทรัพยากรมนุษย์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • มณฑล สรไกรกิติกูล สาขาวิชาการบริหารองค์การ การประกอบการและทรัพยากรมนุษย์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คำสำคัญ:

การบริการสาธารณะ, สวัสดิการ, ข้าราชการ, แรงจูงใจ

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพเพื่ออธิบายเหตุผลที่อยู่เบื้องลึกของการเป็นข้าราชการ
และเพื่อศึกษาการรับรู้แรงจูงใจในการบริการสาธารณะและความสำคัญของสวัสดิการในองค์กร
ในการตัดสินใจรับราชการ เก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับข้าราชการพลเรือนสามัญใน
หน่วยงานราชการแห่งหนึ่งที่สมัครใจให้ข้อมูล จำนวน 20 คน
ผลการวิจัยพบว่า ข้าราชการ จำนวน 8 คน รับราชการเนื่องจากมีแรงจูงใจในการบริการ
สาธารณะ โดยแสดงพฤติกรรมที่ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมใน 4 มิติ คือ มิติที่ 1 การเข้าไปมี
ส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสาธารณะ มิติที่ 2 ความมุ่งมั่นในการรับผิดชอบต่อผลประโยชน์
ส่วนรวม มิติที่ 3 ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และมิติที่ 4 ความเสียสละ สะท้อนให้เห็นถึงความ
ตั้งใจในการรับราชการ ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของภาครัฐที่มุ่งตอบสนองความต้องการของ
ประชาชนโดยรวม และข้าราชการ จำนวน 12 คน ให้ความสำคัญของสวัสดิการที่เป็นแรงจูงใจ
ในการรับราชการ เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการในการดำรงชีวิตได้ทั้งในด้าน
1) ครอบครัว จากการปลูกฝังสวัสดิการภาครัฐอันเกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ที่มีต่อตนเองและ
ครอบครัว 2) ความมั่นคงในชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ 3) ลดภาระค่าครองชีพ 4) สร้างขวัญ
และกำลังใจในการปฏิบัติงาน และมีเหตุผลเบื้องลึกคือต้องการสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิต

เอกสารอ้างอิง

กอแก้ว จันทร์กิ่งทอง. (2556). อิทธิพลของพฤติกรรมระดับบุคคล กลุ่ม และองค์การที่มีต่อผลการ
ดำเนินงานของสถานีตำรวจเพื่อประชาชน (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัย
สงขลานครินทร์, คณะวิทยาการจัดการ.
กิ่งพร ทองใบ. (2553). ระบบค่าตอบแทนสมัยใหม่ จากวิชาการสู่วิชาชีพ. กรุงเทพฯ: พิมพ์ดีการพิมพ์.
ชาย โพธิศิตา. (2552). ศาสตร์และศิลป์แห่งการวิจัยเชิงคุณภาพ. กรุงเทพฯ: อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนพับลิชชิ่ง.
นัทที ขจรกิตติยา. (2554). ปัจจัยเชิงสาเหตุและผลของแรงจูงใจในการบริการสาธารณะในสามจังหวัด
ชายแดน ภาคใต้ของไทย: การทบทวนวรรณกรรม. การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับ
บัณฑิตศึกษาแห่งชาติ, 23, 684-690.
บุณยฤทธิ์ พร้อมสุทธิพงศ์. (2556). บทบาทของคริสตจักรในจังหวัดเชียงใหม่ในการสร้างแรงจูงใจสาธารณะ.
(วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์.
ประชาชาติธุรกิจ. (2555). แห่สมัครข้าราชการนับล้าน รับแค่ 6 พัน สรรพากร กรมการปกครองและ
กระทรวงเกษตรฯรับมากที่สุด. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559. เว็ปไซด์ http://
www.kruthai.info/view.php?article_id=1110
ปรียานุช วัฒนกูล. (2550). ค่านิยมในการรับราชการของข้าราชการยุคใหม่นาบริบทของความ
เปลี่ยนแปลง.สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2559.เว็ปไซด์ http://www.ocsc.go.th /ocsc /th/
files/BRD_Reserch/thesis%20knowledge/11_Jan_2013/4_2550.pdf
มูลนิธิสถาบันอนาคตไทยศึกษา. (2015). ข้อเท็จจริง 10 ปี ระบบข้าราชการไทย. สืบค้นเมื่อวันที่ 20
กุมภาพันธ์ 2559. เว็ปไซด์ http://www.thailandff.org/upload/reports/10%20year%20gov
_officer.pdf
รุจี อมฤตย์, ปฐม มณีโรจน์, ภาคภูมิ ฤกขะเมธ และ รัชนีกูล ภิญโญภานุวัฒน์. (2557). การศึกษา
พฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การภาครัฐไทย: ศึกษากรณีข้าราชการในมหาวิทยาลัย
ของรัฐ เขตกรุงเทพฯและปริมณฑล. วารสารการจัดการสมัยใหม่, 12(2), 38-55
วรรณดี สุทธินรากร. (2556). การวิจัยเชิงคุณภาพ: การวิจัยในกระบวนทัศน์ทางเลือก. กรุงเทพฯ: ศยาม.
วรรษพร อากาศแจ้ง.(2556). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความตั้งใจลาออกของคนเก่งในระบบราชการ. WMS
Journal of Manangement Walailak University. 2(2), 47-58.
ศุภชัย ยาวะประภาษ. (2548). การบริหารงานบุคคลภาครัฐไทย:กระแสใหม่และสิ่งท้าทาย. กรุงเทพฯ:
บริษัท จุดทอง จำกัด.
สำนักพัฒนาระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทน สำนักงาน ก.พ.. (2557). มาตรการบริหารและ
พัฒนากำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. 2557-2561) และแนวปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: บริษัท 21 เซ็นจูรี่ จำกัด
สุรางค์รัตน์ วศินารมย์. (2540). สวัสดิการในองค์กร: แนวคิดและวิธีการการบริหาร. กรุงเทพฯ:
เม็ดทราย พริ้นติ้ง.
A.B. Shani, Dawn Chandler, Jean-Francois Coget and James B. Lau. (2009). Behavior in
Organization: An Experiential Approach. New York: McGrew-Hill.
Betty Yung. (2014). Differential Public Service Motivation Among Hong Kong Public Officials:
A Qualitative Study. Public Personnel Management, 43(4), 415-441.
Emanuel Camilleri, (2007). Antecedent affecting public service motivation. Personnel Review,
36(3), 356-377.
Greenberg, Jerald and Baron, A. Robert. (2008). Behavior in Organization: Understanding and
Managing the Human Side of work. 8thed. New Jersey: Prentice Hall.
James L. Perry and Lois Recasino Wise. (1990). The Motivational Bases of Public Service. Public
Administration Review, 50(3), 367-373.
James L. Perry. (1996). Measuring Public Service Motivation: An Assessment of Construct
Reliability and Validity. Journal of Public Administration Research and Theory, 6(1), 5-22
James L.Perry, Annie Hondeghem and Lois Recascino Wise. (2010). Revisiting the Motivational
Bases of Public Service: Twenty Year of Research and an Agenda for the Future. Public
Administration Review, 70(5),681-690.
Michael Armstrong and Henlen Murlis. (2007). Reward Management: A Handbook of
Remuneration Strategy and Practice. 5 thed. London: Kogan Page 2001.
Neal Chalofsky and Vijay Krishna. (2009). Meaningfulness, Commitment, and Engagement: The
Intersection of a Deeper Level of Intrinsic Motivation. Advances in Developing Human
Resources, 11(2), 189-203.
Sangmook Kim. (2006). Public service motivation and organizational citizenship behavior in
Korea. International Journal of Manpower, 27(8),722-740.
Virginia Braun and Victoria Clarke. (2006). Using thematic analysis in psychology. Qualitative
Research in Psychology, 3, (77-101)
Wouter Vandenabeele, (2011). Who Want to Deliver Public Service? Do Institutional Antecedents
of Public Service Motivation Provide an Answer?. Review of Public Personnel
Administration, 31(1).87-107

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-09-11

รูปแบบการอ้างอิง

ดิสกุล เ., & สรไกรกิติกูล ม. (2018). เบื้องลึกของการเป็นข้าราชการ: แรงจูงใจในการบริการสาธารณะและสวัสดิการ. วารสารบริหารธุรกิจและการจัดการปริทัศน์, 10(1), 55–72. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/bahcuojs/article/view/144996

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย