การศึกษางานแปลปรัชญานิพนธ์จีน สมัยต้นรัตนโกสินทร์ : กรณีศึกษาการแปลสุภาษิตขงจู๊ โดยพระอมรโมลี (จี่)
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการแปลปรัชญานิพนธ์จีนเป็นภาษาไทยในยุคต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งถือเป็นการแปลปรัชญานิพนธ์จีนยุคแรกของไทย โดยงานปรัชญานิพนธ์จีนลำดับต้น ๆ ที่พบคือคัมภีร์หลุนอี่ว์[1] (论语)หรือชื่อภาษาไทยที่ใช้คือ สุภาษิตขงจู๊ อำนวยการแปลโดยพระอมรโมลี (จี่) เมื่อปีพ.ศ. 2369 เนื่องจากในสมัยนั้นไม่มีผู้รู้ภาษาจีนและไทยดีในบุคคลเดียวกัน การแปลจึงมีทั้งวิธีการถอดความ วิธีรวบรัดตัดย่อ รวมถึงวิธีการขยายความ เพื่อให้ผู้อ่านชาวไทยเข้าใจในสาระนั้นได้ง่ายขึ้น
ผลการศึกษาพบว่า การแปลปรัชญานิพนธ์จีนคัมภีร์หลุนอี่ว์ สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีลักษณะต่อไปนี้ มีการตัดข้อความ ขยายความ ดัดแปลงข้อความ เพิ่มเติมตัวอย่างในข้อความต้นฉบับ รวมถึงนำข้อความจากปรัชญานิพนธ์จีนเล่มอื่นสอดแทรกเข้ามาในบทแปล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้บทแปลภาษาไทยมีเนื้อหาที่ไม่ตรงกับต้นฉบับภาษาจีนอยู่มาก สำหรับการถอดเสียงภาษาจีนเป็นภาษาไทย พบว่าคำทับศัพท์ภาษาจีนในบทแปล เช่น ชื่อบุคคล ใช้ตามเสียงภาษาจีนฮกเกี้ยน(闽南话)สำเนียงจางโจว[2] อนึ่ง ผู้วิจัยคาดว่าวัตถุประสงค์หลักในการแปลปรัชญานิพนธ์เรื่องนี้ คือ ผู้แปลหมายจะเผยแพร่หลักปรัชญาและคุณธรรมในการดำเนินชีวิตของคนจีนสู่สังคมไทย
[1] บทความวิจัยฉบับนี้อ้างอิงการถอดเสียงภาษาจีนกลางเป็นภาษาไทย โดยใช้เกณฑ์การถ่ายทอดเสียงภาษาจีนแมนดารินด้วยอักขรวิธีไทยของคณะกรรมการการสืบค้นประวัติศาสตร์ไทยในเอกสารภาษาจีน สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
[2] ถาวร สิกขโกศล.2556.สุภาษิตขงจู๊และนางเคงเกียงสอนบุตร.วารสารจีนศึกษา.6(1),หน้า 1.
Article Details
ผลงานทางวิชาการที่ลงตีพิมพ์ในวารสารจีนศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียนหรือผู้แปลผลงานนั้น หากนำลงในวารสารจีนศึกษาเป็นครั้งแรก เจ้าของผลงานสามารถนำไปตีพิมพ์ซ้ำในวารสารหรือหนังสืออื่นได้โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แต่หากผลงานที่ได้รับพิจารณานำลงในวารสารจีนศึกษา เป็นผลงานที่เคยตีพิมพ์ที่อื่นมาก่อนเจ้าของผลงานต้องจัดการเรื่องปัญหาลิขสิทธิ์กับแหล่งพิมพ์แรกเอง หากเกิดปัญหาทางกฎหมาย ถือว่าไม่อยู่ในความรับผิดชอบของวารสารจีนศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทั้งนี้ ความคิดเห็นต่างๆ ในบทความเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่เกี่ยวกับกองบรรณาธิการวารสารจีนศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
วารสารมนุษยศาสตร์.16 (2), 86-98.
กนกพร นุ่มทองและศิริวรรณ ลิขิตเจริญธรรม. (2562). หลักและข้อควรระวังในการแปลจีน-
ไทย ไทย-จีน. วารสารจีนศึกษา.12(2), 105-151.
กรมศิลปากร. (2479). สุภาษิตขงจู๊ กับ เรื่องนางเคงเกียงสอนบุตร. (ที่ระลึกเนื่องในงาน
พระราชทานเพลิงพระศพพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพงศาดิศรมหิป วันที่ 27
มกราคม 2479).[ระบบออนไลน์].แหล่งที่มา https://vajirayana.org/สุภาษิตขงจู๊-กับ-
เรื่องนางเคงเกียงสอนบุตร (29 พฤษภาคม 2563)
คณะกรรมการการสืบค้นประวัติศาสตร์ไทยในเอกสารภาษาจีน สำนักเลขาธิการ
นายกรัฐมนตรี. (2540). เกณฑ์การถ่ายถอดเสียงภาษาจีนแมนดารินด้วยอักขรวิธีไทย.
กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ไช่จื้อจง เขียน, ถาวร สิกขโกศล อดุลย์ รัตนมั่นเกษมและกนกพร นุ่มทอง แปล. (2562). ตูน’
ปรัชญาขงจื่อ. สมุทรสาคร: พิมพ์ดี.
ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จกรมพระยา. (2554). ตำนานหนังสือสามก๊ก. กรุงเทพฯ: สุขภาพใจ.
ถาวร สิกขโกศล. (2556). สุภาษิตขงจู๊และนางเคงเกียงสอนบุตร.วารสารจีนศึกษา. 6(1), 1-24.
เถกิง พันธุ์เถกิงอมร. (2528). เรื่องจีน : พัฒนาการ บทบาท และอิทธิพลในไทย. วารสาร
วิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช. 9(3), 21-69.
พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ.“วรรณกรรมจีนภูมิเรียนรู้สู่สังคมต้นรัตนโกสินทร์: สมเด็จเจ้าพระยา
บรมมหาศรีสุริยวงศ์.” แนวหน้า. 14 มิถุนายน 2558, หน้า 13.
วินัย สุกใส. (2553๗. วิวัฒนาการวรรณกรรมจีนในภาษาไทย ตั้งแต่พ.ศ. 2411-2475
(ตอนที่ 1) .วารสารจีนศึกษา. 3(1), 212-240.
สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. (2546). เอกสารการสอนชุดวิชา
พัฒนาการวรรณคดีไทย. พิมพ์ครั้งที่ 6.นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
สุวรรณา สถาอานันท์. (2551). หลุนอี่ว์ : ขงจื่อสนทนา.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่ง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อมร ทองสุก. (2553). คัมภีร์หลุนอี่ว์. พิมพ์ครั้งที่ 3. ปทุมธานี: บริษัทชุนหวัตร จำกัด.
傅佩荣.(2012) .论语之美..长沙:湖南文艺出版社.
傅佩荣.(2015).论语300讲(上).北京:中华书局.
傅佩荣.(2015).论语300讲(下).北京:中华书局.
中国社会科学院语言研究所词典编辑室.(2016).现代汉语词典(第7版).
北京:商务印书馆.