การปรับตัวของโรงเรียนจีนที่รับการสนับสนุนจากจีนแผ่นดินใหญ่ในชุมชนจีนยูนนานทางภาคเหนือของประเทศไทย กรณีศึกษาโรงเรียนสอนภาษาจีนเจี้ยวเหรียญเชียงใหม่ หมู่บ้านอรุโณทัย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

Main Article Content

ซ่อซิง เมธาธารณ์กุล
ฉัตกฤษ รื่นจิตต์

บทคัดย่อ

งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการปรับตัวของโรงเรียนสอนภาษาจีน เจี้ยวเหรียญเชียงใหม่ซึ่งรับการสนับสนุนจากจีนแผ่นดินใหญ่ ในหมู่บ้านอรุโณทัยซึ่งเป็นหมู่บ้านจีนยูนนานทางภาคเหนือของประเทศไทย และศึกษาถึงการแผ่อำนาจละมุนของจีนผ่านการสนับสนุนทางการศึกษาและวัฒนธรรมต่อโรงเรียนจีนในภาคเหนือของประเทศไทย หมู่บ้านจีนยูนนานในภาคเหนือของไทยเหล่านี้แต่เดิมรับการสนับสนุนจากไต้หวัน โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพเป็นหลักโดยการสังเกตพื้นที่ ใช้แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เชิงลึก ผลการวิจัยพบว่า โรงเรียนสอนภาษาจีนเจี้ยวเหรียญเชียงใหม่ใช้กลยุทธ์ 5 ประการเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของคนในหมู่บ้าน อันประกอบด้วย (1) แสวงหาพันธมิตรจากจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อพัฒนาโรงเรียน ดึงดูดและขยายจำนวนผู้เรียน (2) เน้นการประชาสัมพันธ์โรงเรียนเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (3) เน้นการเรียนรู้และการเทียบเคียงผลลัพธ์กับสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อพัฒนาโรงเรียนให้แตกต่าง (4) พัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เน้นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมเพื่อดึงดูดให้คนภายนอกเห็นความก้าวหน้าที่ชัดเจน และ (5) ตอบแทนสังคม เพื่อสร้างความเข้าใจและยอมรับต่อโรงเรียน รวมทั้งนำเสนอผลสืบเนื่องจากกระบวนการปรับตัวของโรงเรียน


 

Article Details

ประเภทบทความ
Articles

เอกสารอ้างอิง

จุฑารัตน์ เมืองแก้ว. (2537). การปรับตัวของชุมชนกิ่งเมืองกึ่งชนบทในภาคเหนือ : กรณี บ้านเบ้อ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษานอกระบบ. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. หน้า 17-18.

ราชบัณฑิตยสถาน. (2549). พจนานุกรมศัพท์สังคมวิทยา อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. พิมพ์ครั้งที่ 3, กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน. หน้า 9.

สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. (2561). พจนานุกรมศัพท์มานุษยวิทยา ฉบับราชบัณฑิตยสภา. กรุงเทพฯ: สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. หน้า 1. หน่วยเฉพาะกิจ 327 กองทัพภาคที่ 3. (2530). ผู้อพยพอดีตทหารจีนชาติ. เชียงใหม่: โรงพิมพ์ดารารัตน์.

หยาง ญาณี และคณะ. (2019). เทศกาลสำคัญของชาวจีนยูนนานที่หมู่บ้านอรุโณทัย ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี. 11(1): 41-59

อรัญญา ศิริผล. (2561) ปฏิบัติการศาสนา ทุนจิตวิญญาณกับการเมืองวัฒนธรรมจีนในชายแดนไทยภาคเหนือ. รายงานการวิจัย.

Arnole, W. (1980). Crisis Communication. Iowa, Gorsuch Scarisbrook. ใน ไพโรจน์ ภัทรนรากุล. (2546). กลยุทธ์การจัดการและการปรับตัวขององค์การในสภาวะวิกฤต. กรุงเทพฯ: คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์. หน้า 15.

陈鹏勇.(2017)“一带一路”战略视域下的华文教育发展研究,《高教 探索》.第6期:100-104.

陈遥.(2010)中国在东南亚的软实力与华侨华人的作用——国际关系和华侨 华人学整合的视角,《华侨大学学报(哲学社会科学版)》第2期,第 82-88页.

达红娟.(2563)孔子学院在泰国的发展研究,วารสารวิชาการภาษาและวัฒนธรรมจีน. ปีที่ 7 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2563. หน้า 19-32.

范宏伟,刘晓民.(2007)中国软实力的培育:当前海外华文教育发展 状况,《南洋问题研究》. 第4期:98-102.

方长平、侯捷.(2017)华侨华人与中国在东南亚的软实力建设,《东南亚 研究》第2期,第137页.

金雅. (2016).《泰北华文民校汉语教学发展现状研究》.天津师范大学硕士 学位论文.

李祺.(2015)泰北云南籍华人融合问题:以美斯乐为例,暨南大学硕士学 位论文.

李如龙、陈燕艺. (2019).东南亚华文教育漫谈.《华文教学与研究》. 第3期,第29页。

魏国彬、周伦. (2013).泰北华人村华文教育的发展变迁——来自泰国金三角地区 的田野调研系列报告之一.《保山学院学报》. 第4期,第1-7页。

杨新新.(2020)台湾当局对泰北山区华文教育援助的演变:“文教帮扶” 与“政治扶持”,《台湾研究集刊》第3期,第102-110页.

杨新新.(2018).经济、社会、文化资本与学校的发展——泰国清莱山区华 文学校的分化探析,《华侨华人历史研究》,第2期,第42-50页.

余义兵、张烨琳. (2021). 论孔子学院发展与中国文化的传播,《蚌埠学 院 学报》,第4期,第117页.

袁神、吴庆悦.(2010).中国和日本软实力比较——基于软实力 系统构建 的视角,《亚太经济》,第6期,第103页.

袁振保.(2012)泰北华人村华文教学调查与研究——以清迈为例,云南 师范大学硕士学位论文.

詹双晖.(2013)东南亚华文教育与我国文化软实力建设略论,《创新》. 第5期,第107-110页.

Joseph. S. Nye Jr. (2012). China and Sopft Power. South African Journal of International Affairs. 19: 89 in黄三生.(2020)约瑟夫·奈关于中美软 实力的比较研究,《文化软实力》. 第4期:31-39.

Joseph. S. Nye Jr. (2011). Soft Power: The Means to Success in World Politics. New York: Public Affairs. 1-32.

Lei, Qili and Chang Dong. (2016). The Difficulties and Possibilities of Cross- Cultural Communication: A Case study of Global Development of the Confucius Institutes. Chinese Education & Society. 49: 402-410.

Lin, Jeng-Yi. (2016). A Study on the State of Development of Higher Education Confucius Institutes from Mainland China. Chinese Education & Society. 49: 425-436.

To, James. (2012). Beijing’s Policies for Managing Han and Ethnic-Minority Chinese Communities Abroad. Journal of Current Chinese Affairs. 41: 183-221.