ปัญหาทางกฏหหมายในการคุ้มครองสิมธิของภูมิปัญญาท้องถิ่น: ศึกษากรณีการคุ้มครองโดยอาศัยพระราชบัญญัติสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2546 และกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาอื่นที่เกี่ยวข้อง

Main Article Content

จิรเดช คัชมาตย์

Abstract

จากการศึกษาพบว่า การคุ้มครองภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้น มีความแตกต่างจากการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาประเภทอื่น ๆ เพราะการมีลักษณะเฉพาะตัว  (Sui Generis) ดังนั้นหากรัฐต้องการที่จะทำการคุ้มครองภูมิปัญญาท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพแล้ว ควรต้องมีการออกกฎหมายที่ทำการคุ้มครองภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยเฉพาะด้วย  อย่างไรก็ตามในร่างพระราชบัญญัติภูมิปัญญาท้องถิ่น พ.ศ.  ... ยังคงมีปัญหาความไม่ชัดเจนต่าง ๆ เช่น เงื่อนไขของการได้มาซึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่น การทับซ้อนของเขตพื้นที่  ปัญหาผู้มีสิทธิในภูมิปัญญาท้องถิ่น  และปัญหาการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นต้น  ซึ่งอาจแก้ไขได้ด้วยการกำหนดให้ผู้ค้นพบภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้น  จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย หรือเป็นหน่วยงานของรัฐด้วย  เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการคุ้มครองภูมิปัญญาท้องถิ่น  โดยอาจกำหนดไว้ในบทนิยาม  และควรมีการกำหนดไว้ให้ชัดเจนว่าสิทธิในภูมิปัญญาท้องถิ่นได้มาโดยผลของกฎหมายทันทีที่มีการค้นพบ  อีกทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้นเป็นสิทธิที่มีความเกาะเกี่ยวกับท้องถิ่น  การจะให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นเจ้าของสิทธิตลอดไปนั้น  อาจกระทบต่อการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นในอนาคต  สิทธิในภูมิปัญญาท้องถิ่นจึงควรเป็นสิทธิเฉพาะตัว และไม่ควรตกทอดไปทางมรดกได้ เมื่อผู้ทรงสิทธิถึงแก่ความตาย  ควรให้สิทธิในภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้น  ตกเป็นสิทธิแก่ท้องถิ่นนั้นที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล  ควรกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้ามาทำการเก็บ จัดหารวบรวม เพื่อการปรับปรุง ศึกษา ทดลอง หรือวิจัย ซึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยว่าควรเป็นผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น  เพื่อมิให้เกิดการรั่วไหลของสิทธิไปยังต่างชาติ  และเพื่อให้การคุ้มครองภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รัฐจึงควรให้มีการจัดตั้งองค์กร  หรือหน่วยงานในการกำกับดูแลขึ้นมาต่างหากแยกจากหน่วยงานอื่นโดยอาจให้อยู่ภายใต้สังกัดของกรมทรัพย์สินทางปัญญา  กระทรวงพาณิชย์  ในกรณีภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรชีวภาพ (Biological Resource) นั้น ประเทศกำลังพัฒนา (Developing Countries) อาจใช้การให้ความยินยอมในการเข้าถึงทรัพยากรชีวภาพเป็นเงื่อนไขให้ต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ตนต้องการได้อีก  ทั้งภายใต้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่  และจะต้องมีมาตรการอื่น ๆ ที่ดำเนินการ  ควบคู่ไปพร้อมกับการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจขึ้นดังกล่าวด้วย เช่น มาตรการทางด้านเศรษฐกิจ  และสังคม  เป็นต้น  เช่นนี้จะทำให้การคุ้มครองสิทธิภูมิปัญญาท้องถิ่นสามารถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ในที่สุด

            From the study to one finds that prevention traditional knowledge are different from others intellectual property, because of its Sui Generis nature. Then if a state is required to prevention traditional knowledge as efficiency should be legislate for only prevention traditional knowledge. However, in proposed Act of traditional knowledge, year. still have problem for any unclear such as condition of gain traditional knowledge, overlap of area, problem of person who has rights in traditional knowledge and problem of apply traditional knowledge, etc. This problem may be resolved by determine founder that traditional knowledge must be as Thai nationality for obtain objective of prevention traditional knowledge, may be fixed in definition and should be clearly determined that rights of gained traditional knowledge are validity of law immediately that founded. In addition, traditional knowledge is rights that relative with local, if anyone or any parties as owner all the time may be affect to develop traditional knowledge in future. Therefore, rights in traditional knowledge should be individual rights and not inherit to heritage, when owner dead should be give rights of person who collect for improvement, study, examine or research which traditional knowledge that should be only Thai nationality for not leak out of rights to abroad. Moreover, for prevention traditional knowledge as efficiency, state should be set up organization or unit for supervise separate from other units, may be under belong to Intellectual Property Department, Ministry of Commerce. In case of traditional knowledge involve with biological resource, developing country may be consent to access biological resource as condition to transmit required technology. Moreover, under exist intellectual property law and shall be other measures are along with set up database for prevention problem as mentioned, such as measure of economic and social, etc. In this way for prevention traditional knowledge is efficiency accordance with hypotheses is fixed.

Article Details

Section
Research Articles