การใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดเห็นของนักศึกษา สาขาวิชาการประถมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
Main Article Content
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาพัฒนาการและการเรียนรู้ของผู้เรียนในระดับประถมศึกษาของนักศึกษาหลังใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์ 2) ศึกษาความสามารถจดบันทึกคอร์เนลล์ 3) ศึกษาความคิดเห็นของนักศึกษาต่อการเรียนโดยใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ที่ลงทะเบียนเรียนวิชา EED 2102 ในภาคเรียนที่ 2/2557 จำนวน 53 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 9 แผน และแบบบันทึกกิจกรรมการจดบันทึกคอร์เนลล์จำนวน 8 แบบ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความสามารถในการจดบันทึกคอร์เนลล์ และแบบประเมินความคิดเห็นของนักศึกษาต่อการเรียน แบบประเมินพฤติกรรมระหว่างเรียนในด้านการปฏิบัติงาน และด้านคุณธรรม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ สถิติเชิงบรรยายโดยหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหาจากข้อเสนอแนะจากแบบประเมินความคิดเห็นของนักศึกษาต่อการเรียนแบบปลายเปิด
ผลการวิจัยพบว่า
1.นักศึกษามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์ วิชาพัฒนาการและการเรียนรู้ของผู้เรียนในระดับประถมศึกษามีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 15.96 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 24.04 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักศึกษาสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สรุปได้ว่านักศึกษามีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาเพิ่มขึ้น
อาจารย์ประจำหลักสูตรสาขาวิชาการประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
E-mail: Sintoon 367058@gmail.com
2.นักศึกษามีคะแนนความสามารถในการจดบันทึกคอร์เนลล์ จำนวน 8 กิจกรรม ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระดับดีมาก ( = 20.07 ,SD =3.81 ) ด้านพฤติกรรมระหว่างเรียนในการปฏิบัติงานโดยภาพรวมมีพฤติกรรมในระดับดี ( = 14.68 ,SD =4.20 ) และด้านคุณธรรมโดยภาพรวมอยู่ในระดับดี( = 14.05 ,SD =4.04 )
3.ความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนวิชาพัฒนาการและการเรียนรู้ของผู้เรียนในระดับประถมศึกษาโดยใช้การจดบันทึกคอร์เนลล์โดยภาพรวมนักศึกษาเห็นด้วยในระดับสูง ( = 4.35, SD = 0.59) ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหาจากข้อเสนอแนะปลายเปิดท้ายแบบสอบถามความคิดเห็นสรุปว่าการจดบันทึกจะง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้นถ้าเนื้อหาวิชาที่มีขั้นตอน ต้องใช้ทักษะการจับใจความสำคัญจากการฟังบรรยายและอ่านเอกสาร หรือการสิบค้นเพิ่มเติมจะทำให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะการเรียนรู้มากขึ้น
Abstract
The purposes of this research were 1) to evaluate the students’ academic achievement in the course “ Development and Learning of Students in Elementary Education “ after using the Cornell Note taking activities, 2) to study the students’ ability before and after learning through using the Cornell Note taking activities, and 3) to study students’ opinions after using the Cornell note taking activity. The sample was 53 Elementary program students who enrolled in the EED 2102 course in the second semester of academic year 2014 at Elementary program, Faculty of Education, Chiang- Mai Rajabhat university.
There were two types of data collecting and research instruments. The first type was designing and implementing the lesson, which consisted of 9 lesson plans using the Cornell note taking activity and 8 Cornell note taking activity forms. The second type was collecting data ,which consisted of the academic achievements tests, the students’ abilities in using the Cornell note in evaluation forms and students’ opinions for using the Cornell.
The statistical data were analyzed by descriptive statistics using mean, standard deviation. The qualitative data were analyzed by content analysis.
The research results were as follows:
1. After the students learnt through using the Cornell note taking activities, in the course “Development and Learning of Students in Elementary Education” their pretest scores were 15.96 and posttest scores were 24.04. In comparision, between pretest and posttest scores found that their academic achievement scores were higher at statistical significant .05. In conclusion, students had more knowledge and understood in content.
2. Their ability’s score in 8 the Cornell note taking was passed criterion at very good level ( = 20.07,SD =3.81 ) the most students’ practical behaviors during the class sessions were at good level ( = 14.68 ,SD =4.20 ) and the most students’ morals were at good level
( = 14.05 ,SD =4.04 )
3. The most students’ opinion through using the Cornell note taking activities, in the course “ Development and Learning of Students in Elementary Education” their scores were at high level. ( = 4.35, SD = 0.59). The qualitative data were analyzed by content analysis from an open-end questionnaire. In conclusion, the Cornell note taking made procedure in studying easier and faster. Students had to find the main idea from listening and reading. Their learning skills were increased.
Article Details
1. Any views and comments in the FEU Academic Review Journal are the authors’ views. The editorial staff have not to agree with those views and it is not considered as the editorial’s responsibility.
2. The responsibility of content and draft check of each article belongs to each author. In case, there is any lawsuit about copyright infringement. It is considered as the authors’ sole responsibility.
3. The article copyright belonging to the authors and the Far Eastern University are copyrighted legally. Republication must be received direct permission from the authors and the Far Eastern University in written form.
References
กระทรวงศึกษาธิการ.(2542). การสังเคราะห์รูปแบบการพัฒนาศักยภาพของเด็กไทยด้านทักษะการเรียน.กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์การศาสนา.
กิตติมา สาธุวงษ์. (2551). ประสิทธิผลการเรียนโดยใช้รูปแบบการจดบันทึกคอร์เนลล์ในวิชาการพยาบาล เด็กและวัยรุ่น2ของนักเรียนพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยกองทัพเรือ.วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ชนิดาภา ยั่งยืนและคณะ. (2554). การพัฒนาทักษะการเรียนในระบบการศึกษาทางไกลสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สถาบันวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ทวีศักดิ์ จินดานุรักษ์.(2543). การพัฒนาคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องทักษะการเรียนสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ.
ปณิดา มัณยานนท์. (2554). การใช้การจดบันทึกคอร์เนลล์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษและความสนใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่4. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ผัสสพรรณ ถนอมพงษ์ชาติ. (2550). การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4โดยใช้วิธีการจดบันทึกคอร์เนลล์. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วรชาติ อำไพ.( 2557 ) . “การจดบันทึก”,สืบค้นเมื่อ 14 กันยายน 2556 จาก
www.stou.ac.th/offices/oes/oespage/guide/.../4.การจดบันทึก.pdf.
อุไรพรรณ เจนวาณิชยานนท์. (2554). การพัฒนาตัวบ่งชี้คุณภาพและแนวปฏิบัติที่ดีของทักษะการเรียนในระดับอุดมศึกษา. มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.
Gettinger, M. and J. K. Seibert . (2002a). Contributions of Study Skills to Academic Competence.The SchoolPsychologyReview(Online).
www.vnweb.hwwilsonweb.com/hww/shared/main.jhtml;jsessionid=PEYYIPKI5TJCZQA3DIMCFGOADUNGIIV0?_requesti d=91407., June 15, 2006.
Kobayashi, K. (2006). Combined Effects of Note‐Taking/‐Reviewing on Learning and the Enhancement through Interventions: A meta‐analytic review. Educational Psychology,26(3), 459-477. doi:10.1080/01443410500342070 APA
Makany, T., Kemp J. &Dror I.E. (2008). Optimising the Use of Note-taking as an external cognitive aid for increasing learning. British Journal of Educational Technology,40(4).619-653. Doi:10.1111/j.1467-8535.2008.00906.x.
McKcachie,W. (2002). McKcachie s Teaching Tips. Boston: Houghton Mifflin.
Oxford, R.L. (1990). Language Learning Strategies: What Every Teacher Should Know Boston:Heinle&Heinle Publishers.
Pauk, W. (1974).How to study in college 2nd Edition.Boston : Houghton Mifflin
Stefanou,C., Hoffman,L. &Vielee, N. (2008). Note-taking in the college classroom as evidence of Generative Learning. Learning Environment Research, 11(1), 1- 17Doi:10.1007/s10984- 007-9033-0.
Tsai-Fu, T., &Yogan, W. (2010). Effects of Note-Taking Instruction and Note-Taking Languages on College EFL Students’ Listening Comprehension. New Horizons in Education,58(1),120-132. Retrieved from Education Research complete database.