โมเดลสมการโครงสร้างปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมการศึกษา ของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ผู้แต่ง

  • กัญญาณัฐ สิมสวัสดิ์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีล้านช้าง
  • พิมพ์อร สดเอี่ยม คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีล้านช้าง
  • บุญช่วย ศิริเกษ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีล้านช้าง

คำสำคัญ:

โมเดลสมการโครงสร้าง, องค์กรแห่งนวัตกรรมการศึกษา, สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมการศึกษาและระดับการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมการศึกษา 2) เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องกลมกลืนของโมเดลความสัมพันธ์โครงสร้างปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมการศึกษาที่พัฒนาขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์ และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมการศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มตัวอย่างการวิจัย คือ ผู้บริหารและครูผู้สอนโรงเรียนประถมศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 910 คน จากวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามสัดส่วน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.8982 และแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติบรรยาย และสถิติอ้างอิง

ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรนวัตกรรมการศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา คือ ด้านนิสัยนวัตกรรม ด้านบรรยากาศนวัตกรรม ด้านการบริหารทรัพยากร และด้านภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม ตามลำดับ 2) ผลการตรวจสอบความสอดคล้องกลมกลืนโมเดลสมการโครงสร้างที่พัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ตามเกณฑ์คือ equation2=105.83, df=90, P-value=0.12, /df = 0.18, GFI = 0.99,  AGFI = 0.97, CFI = 1.00, RMSEA = 0.01, SRMR = 0.00, NFI = 0.99,และ NNFI = 0.99  การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมการศึกษาได้รับอิทธิพลรวมจากภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม นิสัยนวัตกรรม การบริหารทรัพยากรและด้านบรรยากาศนวัตกรรมตามลำดับ โดยร่วมกันอธิบายการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมการศึกษาร้อยละ 74 และ 3) แนวทางการพัฒนาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมการศึกษาใช้การบูรณาการระหว่างหลักการและวิธีปฏิบัติ

เอกสารอ้างอิง

พรชัย กำหอม. (2560). โมเดลสมการโครงสร้างปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความเป็นโรงเรียนแห่งนวัตกรรมของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด.

พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562. (2562, 30 เมษายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 136 ตอนที่ 56 ก. หน้า 102-120.

ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2562- 2580). (2561, 13 ตุลาคม). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนที่ 82 ก. หน้า 1.

สจีวรรณ ทรรพวสุ และ สุทธิพงศ์ บุญผดุง. (2566). การบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นองค์การนวัตกรรมในการจัดการศึกษาเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมของผู้เรียน ยุคการศึกษาประเทศไทย 4.0. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ, 17(1), 1-14.

องค์อร ประจันเขตต์. (2557). องค์กรแห่งนวัตกรรมการศึกษา ทางเลือกใหม่ของการบริหารการศึกษา. วารสารพยาบาลทหารบก วิทยาลัยพยาบาลทหารบก, 15(1), 45-51.

Edwards - Schachter, M. (2018). The nature and variety of innovation. International Journal of Innovation Studies, 2(2), 1-15.

O’loghlin, J. (2016). Innovation Is a State of Mind. Singapore PTE. LED: John Wiley & Sons.

Quinn, R. & Spreitzer, G. (1991). The Psychometrics of the Competing Values Culture Instrument and an Analysis of the Impact of Organizational Culture on Quality of Life. In: Woodman, R.W. and Pasmore, W.A., Eds., Research in organizational change and development, 5(1), 115-142.

Ralph, W. (2006). The Steps of Curriculum Development. Retrieved May 23, 2023, from https://www.scribd.com/doc/117077365/Ralph-Tyler-Curriculum

Tidd, J. and others. (2006). Managing Innovation. West Sussex: John Wiley & Sons.

Von, S. B. (2008). Managing Innovation, Design and Creativity. Retrieved May 23, 2023, from https://www.amazon.co.uk/Managing-Innovation-DesignCreativityBettina/dp/0470510668

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-12-29

รูปแบบการอ้างอิง

สิมสวัสดิ์ ก. . ., สดเอี่ยม พ., & ศิริเกษ บ. (2024). โมเดลสมการโครงสร้างปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมการศึกษา ของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา, 14(4), 1738–1751. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/JDAR/article/view/274122

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย