ภูมิปัญญาอาหารอัตลักษณ์ ไท-ยวนของชุมชน ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี
คำสำคัญ:
ภูมิปัญญา, อาหารอัตลักษณ์ไท-ยวน, ชุมชนรางบัว, อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภูมิปัญญาอาหารอัตลักษณ์ไท-ยวนของชุมชนตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ มุ่งเน้นการเก็บข้อมูลจากแหล่งข้อมูลบุคคลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้ข้อมูลหลักคือปราชญ์ชาวบ้านด้านอาหารไทย-ยวนจำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง การสังเกตภาคสนาม และการสนทนากลุ่ม โดยดำเนินการร่วมกับนักศึกษาที่ลงทะเบียนในรายวิชาการดำเนินงานและการบริการอาหารและเครื่องดื่ม ข้อมูลที่ได้ถูกวิเคราะห์ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และการวิเคราะห์เชิงพรรณนา (Descriptive Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า ภูมิปัญญาอาหารไทย-ยวนในชุมชนตำบลรางบัวมีลักษณะเฉพาะที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติ การเลือกใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น เช่น ผักพื้นบ้าน เห็ดป่า ปลาแม่น้ำ และสมุนไพร เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ด้านวิธีการปรุงอาหารยังคงรักษารูปแบบดั้งเดิม เช่น การนึ่ง การย่าง การตำ และการหมัก โดยใช้อุปกรณ์พื้นบ้าน เช่น หม้อดิน เตาฟืน และครกหิน เมนูอาหารที่ได้รับการกล่าวถึงบ่อยครั้ง ได้แก่ ข้าวแคบ แกงบอน น้ำพริกถั่วเน่า และขนมเกลือ ซึ่งล้วนมีความหมายเชิงวัฒนธรรมและพิธีกรรม การจัดสำรับอาหารในงานบุญ เช่น งานแต่ง งานขึ้นบ้านใหม่ และงานทำบุญประจำปี มักใช้ขันโตกในการต้อนรับแขก แสดงถึงความเคารพและความเอื้ออาทร การถ่ายทอดองค์ความรู้เกิดขึ้นผ่านการฝึกปฏิบัติจริงในครัวเรือน โดยมีผู้สูงอายุเป็นผู้ถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ของ Kolb (1984) และแนวคิดบริบททางสังคมของการเรียนรู้ของ Vygotsky (1978) ข้อเสนอแนะจากการวิจัย ได้แก่ การจัดทำฐานข้อมูลภูมิปัญญาอาหารไทย-ยวนในรูปแบบเอกสารและสื่อดิจิทัล การส่งเสริมกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ การบูรณาการภูมิปัญญาเข้าสู่หลักสูตรการเรียนการสอน การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนผ่านผลิตภัณฑ์อาหารและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐในการขึ้นทะเบียนอาหารไทย-ยวนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า ภูมิปัญญาอาหารไทย-ยวนเป็นองค์ความรู้ที่มีคุณค่าในหลายมิติ ทั้งด้านวัฒนธรรม สุขภาพ เศรษฐกิจ และการศึกษา ซึ่งควรได้รับการส่งเสริมและอนุรักษ์อย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและสืบสานอัตลักษณ์ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
จิราภรณ์ ชื่นสงวน. (2563). ภูมิปัญญาอาหารพื้นบ้านไท-ยวน จังหวัดราชบุรี. วารสารศิลปวัฒนธรรมไทย, 12(2), 45–58.
ณัฐวุฒิ พิมพา, & นนทวรรณ ประเสริฐศรี. (2563). การจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะวิชาชีพด้านบริการอาหารและเครื่องดื่ม. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยราชภัฏ.
ปิยรัตน์ จันทร์เพ็ญ. (2562). การสืบทอดภูมิปัญญาอาหารพื้นบ้านเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนภาคกลางตอนล่าง. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม, 9(1), 71–83.
มนตรี ดีโนนโพธิ์. (2562). การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์. วารสารวิชาการครุศาสตร์, 40(2), 45–58.
รัตนาภรณ์ ศรีโพธิ์. (2561). การถ่ายทอดภูมิปัญญาอาหารของกลุ่มชาติพันธุ์ในภาคเหนือ. วารสารสังคมศาสตร์, 14(3), 120–135.
วิกิพีเดียผู้เขียนร่วม. (n.d.). ไทยวน. Retrieved from https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%99
วิมลรัตน์ กาญจนบุษย์. (2564). การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย. วารสารนวัตกรรมสังคมและวัฒนธรรม, 7(2), 56–70.
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (สวส.). (n.d.). ไทยวนราชบุรี - วิกิชุมชน. Retrieved from https://wikicommunity.sac.or.th/community/873
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับการจัดการศึกษา. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
สุดาพร ปัญญาพฤกษ์. (2564). แนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในระดับอุดมศึกษา. วารสารการศึกษาและพัฒนา, 12(1), 23–35.
Kolb, D. A. (1984). Experiential learning: Experience as the source of learning and development. Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall.
Kongsuwan, D. (2016). “Shan Cuisine” The Intangible Cultural Heritage of [Thailand]. Special Volume 2016. Retrieved from https://so02.tci-thaijo.org/index.php/bruj/article/download/247448/167417
Krajangchom, S. (2023). Origins and localization of Tai Lue food culture in Northern Thailand. PubMed Central. Retrieved from https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC10231961/
Long, T., Looijen, A., & Blok, V. (2018). Building community-based food culture: A case study of local identity and culinary heritage. Journal of Rural Studies, 61, 45–54. https://doi.org/10.1016/j.jrurstud.2018.06.002
Lunchaprasith, T., & MacLeod, D. (2018). Food tourism and the use of authenticity in... (Eprint). Retrieved from https://eprints.gla.ac.uk/152625/7/152625.pdf
Padoongpatt, M. (2017). Flavors of Empire: Food and the Making of Thai America. University of California Press.
Park, E. (2023). Constructing food experiences in a UNESCO gastronomy city. International Journal of Tourism Research / Food Tourism literature. Retrieved from https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/14616688.2021.1943701
Somnasang, P., & Moreno-Black, G. (2000). Knowledge and attitudes about wild food in ... Journal of Ethnobiology. Retrieved from https://ethnobiology.org/sites/default/files/pdfs/JoE/20-2/SomnasangMoreno-Black.pdf
UNESCO. (2003). Convention for the safeguarding of the intangible cultural heritage. Paris: United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization.
Vygotsky, L. S. (1978). Mind in society: The development of higher psychological processes. Cambridge, MA: Harvard University Press.
Wright, K. E. (2021). The impact that cultural food security has on identity and ... PubMed Central. Retrieved from https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC7829482/
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และคณาจารย์ท่านอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
