ยุทธศาสตร์ของพรรคก้าวไกลในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน พ.ศ. 2566

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาบริบทและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน พ.ศ. 2566 (2) เพื่อศึกษายุทธศาสตร์และวิธีการรณรงค์หาเสียงทางการเมืองของพรรคก้าวไกลในพื้นที่4จังหวัดภาคเหนือตอนบน พ.ศ. 2566 (3) เพื่อศึกษาชัยชนะของพรรคก้าวไกลในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน พ.ศ. 2566 ใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ (qualitative research) โดยเก็บข้อมูลด้วยวิธีการศึกษาข้อมูลจากเอกสารสำคัญและการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้อง จำนวน 20 คน

ข้อค้นพบประการที่ 1 พบว่าอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคก้าวไกลตรงต่อความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ใน 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบนประชาชน-คนรุ่นใหม่ล้วนแล้วแต่เป็นฐานเสียงผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลปัจจัยเรื่องการครองหรือการผูกขาดทางการเมืองในพื้นที่อย่างยาวนานของอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยที่ประชาชนในพื้นที่เห็นว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ข้อค้นพบประการที่ 2 พบว่า ยุทธศาสตร์การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลที่ทำให้พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนพบว่าการใช้ยุทธศาสตร์สื่อโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งโดยเฉพาะแอพพลิเคชั่น Tik Tok เป็นเครื่องมือการหาเสียงที่มีประสิทธิภาพประกอบกับคะแนนนิยมทางการเมืองของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์มีความโดดเด่นมากกว่าหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นส่งผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากคะแนนนิยมของพรรคมากกว่าคะแนนนิยมของผู้สมัคร

ข้อค้นพบประการสุดท้าย พบว่า ชัยชนะของพรรคก้าวไกลในพื้นที่4จังหวัดภาคเหนือตอนบน พ.ศ. 2566 ชัยชนะของพรรคก้าวไกลที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องความอ่อนแอของกลุ่มคนเสื้อแดงและอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณชินวัตรอยู่ต่างประเทศยาวนานปัจจัยเรื่องการไม่ขยันลงพื้นที่ของนักการเมืองที่เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปัจจัยเรื่องความสำเร็จของ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกลต่อบทบาททางการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรกระบวนการถ่ายทอดแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคก้าวไกลมีความเข้มแข็งต่อเนื่องและปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบนมาจากประชาชนบางกลุ่มไม่ชอบการบริหารประเทศของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา