แนวทางการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นกับการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน: กรณีศึกษาชุมชนเมืองคอง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษานี้มุ่งเน้นการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นกับกระบวนการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในชุมชนเมืองคอง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นชุมชนที่มีเอกลักษณ์ด้านวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความสัมพันธ์เชิงลึกกับสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิปัญญาการจัดการน้ำด้วยระบบเหมืองฝาย การเกษตรที่อิงฤดูกาลและการใช้ประโยชน์จากป่าชุมชนร่วมกับความเชื่อทางจิตวิญญาณ วัตถุประสงค์ของการศึกษาคือ (1) ศึกษาภูมิปัญญา ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมของชุมชนเมืองคอง และ (2) พัฒนาแนวทางการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าสู่กระบวนการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม โดยคำนึงถึงมิติด้านวัฒนธรรม สังคม และสิ่งแวดล้อม การวิจัยใช้ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลระหว่างเดือนกันยายน–ธันวาคม พ.ศ. 2567 ผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม และการสำรวจภาคสนาม กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ผู้นำชุมชน 6 คน และประชาชน 30 คน รวม 36 คน ซึ่งคัดเลือกโดยวิธีสุ่มเฉพาะเจาะจงและแบบโควตา เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างและแบบสำรวจข้อมูลเชิงพื้นที่ ผลการศึกษา พบว่า ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนเมืองคองสะท้อนผ่านการตั้งถิ่นฐานของกลุ่มเครือญาติที่จัดวางเรือนพักอาศัยล้อมลาน กลางบ้าน (ข่วง) ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นที่กิจกรรมร่วมกัน ทั้งในชีวิตประจำวันและในพิธีกรรมประจำปี เช่น พิธีสืบชะตาและไหว้ผี ป่า พื้นที่อยู่อาศัยถูกออกแบบให้สัมพันธ์กับสภาพภูมิประเทศเชิงเขา โดยมีการยกพื้นบ้านเพื่อรองรับฝนตกหนักและน้ำไหล เชี่ยวในฤดูฝน อีกทั้งยังเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติและวัสดุท้องถิ่น เช่น ไม้ไผ่และไม้เนื้ออ่อน ในโครงสร้างที่สามารถถอด ประกอบและซ่อมแซมได้ง่าย การจัดการทรัพยากรน้ำและป่าไม้มีความเป็นระบบ ผ่านการใช้ระบบเหมืองฝาย (Muang Fai) ที่ชุมชนจัดเวรใช้น้ำอย่างเป็นธรรมผ่านกลไก “แก่ฝาย” ซึ่งสอดรับกับฤดูกาลเพาะปลูก และการรักษาป่าชุมชนที่เป็นทั้งแหล่ง อาหาร แหล่งยาสมุนไพร และพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ภายใต้ความเชื่อเรื่องผีป่า–ผีเขา โดยมีพิธีกรรมควบคู่เพื่อแสดงความเคารพและรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ ภูมิปัญญาเหล่านี้แสดงถึงการบูรณาการอย่างแนบแน่นระหว่างภูมิประเทศ วัฒนธรรม ความเชื่อ และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์เป็นแนวทางการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมเพื่อความยั่งยืน โดยสามารถจำแนกออกเป็น 3 มิติ ได้แก่ (1) มิติด้านวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของชุมชน (2) มิติด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (3) มิติด้านสังคมและการมีส่วนร่วมของชุมชน แนวทางที่พัฒนาขึ้นนี้มีส่วนช่วยในการอนุรักษ์ และฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน และธำรงไว้ซึ่ง อัตลักษณ์ท้องถิ่นให้สอดคล้องกับการพัฒนาเมืองในบริบทชุมชนชาติพันธุ์เชิงนิเวศเช่นเมืองคอง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ขวัญนภา สุขคร, พัชพร วิภาศรีนิมิต, และสิรณัฐเศรษฐ สุภาจันทรสุข. (2560). ยุทธศาสตร์การจัดการลุ่มน้ำวังแบบมีส่วนร่วมของชุมชน. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ, 10(2), 1969-1970. https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/article/view/102265
ดารารัตน์ ธาตุรักษ์, วชิระ หล่อประดิษฐ์, และวัชรี เทพโยธิน. (2563). การจัดการปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านทุ่งฮ้างและบ้านแม่จอกฟ้า จังหวัดลำปาง. วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่, 12(6), 401-415. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/abcjournal/article/view/241900
เดือนนภา ภู่ทอง. (2561). การจัดการป่าชุมชนเพื่อความยั่งยืน โดยการใช้กระบวนการมีส่วนร่วมสาธารณะและจารีตประเพณี
ท้องถิ่นในพื้นที่ภาคเหนือ. วารสารนวัตกรรมการบริหารและการจัดการ, 6(2), 80-94.
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/RCIM/article/view/150677
พนิต ใหม่ประสิทธิกุล, สุชาติ ลี้ตระกูล, ต่อพงศ์ กรีธาชาติ, และสมบูรณ์ ธรรมลังกา. (2559). รูปแบบการบริหารจัดการน้ำเชิง
บูรณาการบนฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนรอบกว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา. วารสารสังคมศาสตร์วิชาการ, 9(3), 51-68. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/social_crru/article/view/79801
ยุชิตา กันหามิ่ง, พัจน์พิตตา ศรีสมพงษ์, วารัชต์ มัธยมบุรุษ, และฤทัยภัทร พิมลศรี. (2566). กระบวนการจัดการชุมชนในการ
เป็นพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่ากันชนพื้นที่อนุรักษ์ใน เขตภาคเหนือ ประเทศไทย. วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์, 10(1), 126-137.
https://research.kpru.ac.th/research2/pages/filere/7252023-10-20.pdf
วิลาศ เทพทา, อรศิริ ปาณินท์, และวุฒิพงษ์ ทวีวงศ์. (2561). นิเวศวิทยาทางน้ำในระบบเหมืองฝายของพื้นที่เกษตรกรรมใน
แหล่งต้นน้ำและแหล่งต้นน้ำลำธาร. วารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 13(2), 1-11.
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/vrurdistjournal/article/view/143339
อัมพิกา อำลอย, ศุภกุล เรืองวิทยานุสรณ์, วรงค์ วงษ์ลังกา, แผ่นดิน อุนจะนำ, อรัญญา ศิริผล, และระวิวรรณ โอฬารรัตน์มณี.
(2566). การดำรงและการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์พื้นถิ่นล้านนา: กรณีศึกษา ชุมชนเกษตรกรรมในแอ่งที่ราบเมืองคอง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่. วารสารภูมิสถาปัตยกรรม, 5(1), 1-24.
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/LAJ/article/view/268225
Hanif, M., Chasanatun, F., & Wibowo, A. M. (2021). Local Wisdom of the Sodong Buddhist Village Community
in Water Resources Management, 4(4), 8762–8770.
Hapsari, F. N., Setyowati, D. L., & Lestari, P. (2023). Local Wisdom Nyadran as the Social Capital in “Warung
Air Tirto Mulyo” Community-Based Water Management. International Journal of Research and Review, 10(2), 216–225. https://doi.org/10.52403/ijrr.20230228
Kongsat, S., Kangrang, A., & Srisa-Ard, K. (2009). An Applied Local Wisdom to Manage Water for Developing
Riverside Community: A Case Study of the Lam Ta Kong River Basin. Journal of Social Sciences, 5(2), 134–138. https://thescipub.com/abstract/jssp.2009.134.138