ความรับผิดทางอาญาของแพทย์ กรณีศึกษา การกระทำโดยประมาท

ผู้แต่ง

  • หทัยรัตน์ ณ ระนอง -
  • จิรวุฒิ ลิปิพันธ์

คำสำคัญ:

ความรับผิดทางอาญา, แพทย์, กระทำโดยประมาท

บทคัดย่อ

วิชาชีพเวชกรรมเป็นวิชาชีพที่ต้องกระทำการรักษาพยาบาลต่อร่างกายของผู้ป่วยและมีความเสี่ยงต่อความผิดพลาด เกิดความเสียหาย และการฟ้องร้องดำเนินคดี สำหรับประเทศไทยการพิจารณาความรับผิดทางอาญาของแพทย์ใช้ประมวลกฎหมายอาญาในการพิจารณาเช่นเดียวกับการกระทำโดยประมาททั่วไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสี่ ที่กำหนดว่า “กระทำโดยประมาท ได้แก่ กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่” ในการวินิจฉัยความรับผิดของแพทย์ โดยปกติการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ต้องกระทำต่อชีวิตหรือร่างกายของผู้ป่วย แต่การกระทำของแพทย์ได้รับการยกเว้นความผิดทางอาญาตามหลักเรื่องความยินยอม และแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องรักษามาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ภายใต้ ความสามารถและข้อจำกัดตามภาวะ วิสัย และพฤติการณ์ที่มีอยู่ในสถานการณ์นั้น ๆ ดังนั้นปัญหาว่าการกระทำของเเพทย์เป็นการประมาทเลินเล่อหรือไม่นั้นต้องพิจารณาอย่างมาตรฐานของผู้มีวิชาชีพ สำหรับวิชาชีพแพทย์ต้องใช้ความระมัดระวังเช่นเดียวกับผู้มีวิชาชีพซึ่งอยู่ภายใต้วิสัยและพฤติการณ์เช่นเดียวกันกับแพทย์ผู้กระทำนั้น เหตุการยกเว้นความรับผิดทางอาญาของแพทย์ในประเทศไทยไม่ได้ระบุให้การกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงยิ่งกว่าประมาทเลินเล่อในทางแพ่งที่ต้องรับผิดทางอาญาเท่านั้น

เมื่อความเสียหายที่ร้ายแรงในการตรวจรักษาของแพทย์ถึงขนาด กฎหมายจะบัญญัติให้บุคคลนั้นต้องรับผิดทางอาญาด้วย โดยความผิดอาญาที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นฐานความผิดที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาหรือความผิดอาญาตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติอื่นๆ บุคคลจะต้องรับผิดทางอาญาก็ต่อเมื่อกระทำโดยเจตนาแต่การกระทำในบางลักษณะ แม้จะเกิดขึ้นจากความประมาท แต่ก็ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือสังคมโดยส่วนรวม ในกรณีเช่นนี้กฎหมายจะกำหนดเป็นฐานความผิดอาญาด้วย โดยเรื่องที่เกิดขึ้นและนำมาสู่การร้องเรียนหรือฟ้องร้องส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นจากการกล่าวหาแพทย์ว่ากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้ป่วยตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 หรือได้รับอันตรายแก่กาย ดังนั้นปัญหาว่าการกระทำของเเพทย์เป็นการประมาทเลินเล่อหรือไม่นั้นต้องพิจารณาอย่างมาตรฐานของผู้มีวิชาชีพ

ความรับผิดทางอาญาของแพทย์ในประเทศที่ใช้ระบบคอมมอนลอว์ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอังกฤษนั้นต้องมีความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง (Gross Negligence or Recklessness) มากกว่าประมาทเลินเล่อในทางแพ่ง ต่างกับประเทศที่ใช้ระบบซีวิลลอว์รวมทั้งประเทศไทย แม้กระทำโดยประมาทเลินเล่อก็ถือเป็นความผิดทางอาญาได้ การพิจารณาความรับผิดทางอาญาของระบบกฎหมายคอมมอนลอว์พิจารณาจากความตระหนักรู้ในทางอัตวิสัยโดยพิจารณาว่าตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงหรือภยันตรายนั้น ต่างกับระบบกฎหมายซีวิลลอว์รวมทั้งประเทศไทยพิจารณาจากภาวะวิสัย (Objective) ประเทศไทยนั้นใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสี่ พิจารณาการกระทำโดยประมาท ว่าบุคคลได้ใช้ความระมัดระวังต่ำกว่าความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์หรือไม่ หากบุคคลอื่นตกอยู่ในภาวะเช่นเดียวกัน

มาตรฐานความระมัดระวังที่ใช้ในการพิจารณาการกระทำโดยประมาท โดยการพิจารณาความระมัดระวังตามวิสัยของผู้ประกอบวิชาชีพและพฤติการณ์ สถานการณ์สภาวะแวดล้อมในขณะนั้นใช้ความระมัดระวังได้เพียงใด อีกทั้งเปรียบเทียบกับแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะสาขา ประสบการณ์ในการทำงานเดียวกัน หากใช้ความระมัดระวังต่ำกว่ามาตรฐานความระมัดระวังก็ต้องรับผิดทางอาญา เมื่อความเสียหายอาจเกิดขึ้นได้ทั้งต่อชีวิต ร่างกาย แต่หากแพทย์ได้ใช้ความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์แล้วไม่ถือว่าแพทย์ผู้นั้นกระทำโดยประมาท ดังนั้น ผู้เขียนเห็นว่าการพิจารณาความรับผิดทางอาญาของแพทย์ในประเทศไทยเหมาะสมแล้ว แต่อาจพิจารณาร่วมกับหลักความได้สัดส่วนที่เหมาะสมและเป็นธรรม รวมทั้งอาจใช้วิธีอื่นๆ ในการบรรเทาความเสียหายและลดการฟ้องร้องคดี เช่น การใช้วิธีการแก้ไขข้อพิพาททางเลือก (Alternative Dispute Resolution) โดยการกำหนดให้มีกระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและชดใช้ค่าเสียหายที่เหมาะสมและเป็นธรรมมาใช้ในการช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ผู้ป่วยที่เป็นผู้เสียหายอันเป็นการยุติเรื่องก่อนข้อพิพาทจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญาในชั้นศาล

เอกสารอ้างอิง

ภาษาไทย

แสวง บุญเฉลิมวิภาส. กฎหมายและข้อควรระวังของผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ พยาบาล. พิมพ์ครั้งที่ 9.

กรุงเทพมหานคร : วิญญูชน, 2565.

ธนกฤต วรธนัชชากุล. การพิสูจน์ความรับผิดทางละเมิดของแพทย์จากการกระทำโดยประมาทเลินเล่อ.

ม.ป.ท: ม.ป.พ, 2559.

ธัญญธร อินศร และคณะ. “การดำเนินคดีทุรเวชปฎิบัติที่เป็นคดีอาญาในประเทศไทย: กรณีศึกษาเปรียบเทียบ

กับประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอังกฤษ.” ดุลพาห. เล่มที่ 55. ปีที่ 2. น. 127-128 (2551).

ธนกฤต วรธนัชชากุล. “การพิสูจน์ความรับผิดทางละเมิดของแพทย์จากการกระทำโดยประมาทเลินเล่อ.”

จุลนิติ. เล่มที่ 52. (2559).

เพลินตา ตันรังสรรค์. “ภาระการพิสูจน์ความรับผิดทางละเมิดในการประกอบวิชาชีพของแพทย์.” วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2551.

แพทยสภา. เกณฑ์มาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา พ.ศ. 2555 (Professional Standards for Medical Practioners 2012).”

http://www.pcm.ac.th/druweb/sites/default/files/uploads/1/mcach/2012.pdf,

กรกฎาคม 2565.

วารุณี สิทธิรังสรรค์. “เปิดสถิติ “คดีทางการแพทย์” 2561-2563 สู่แนวคิดสร้างเครือข่ายจัดระบบป้องกันปัญหาภาพรวม.” https://www.hfocus.org/content/2020/11/20529, 19 สิงหาคม 2565.

วิฑูรย์ ตรีสุนทรรัตน์. “ทำไม “หมอ” จึงถูก “คนไข้” ฟ้อง.”

https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/900670, 1 พฤศจิกายน 2565.

สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุล และปกป้อง ศรีสนิท. “การศึกษาเพื่อพัฒนาแนวทางการลงโทษ: หลักการลงโทษที่ได้สัดส่วน กรณียาเสพติดให้โทษ.” รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ สำนักกิจการในพระราชดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักปลัดกระทรวงยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม 2558, น. 14.

แสวง บุญเฉลิมวิภาส. กฎหมายและข้อควรระวังของผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ พยาบาล. พิมพ์ครั้งที่ 9.

กรุงเทพมหานคร : วิญญูชน, 2565.

อัจฉรียา ชูตินันทน์. อาชญาวิทยาและทัณฑวิทยา. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร : วิญญูชน, 2563.

อัศวิน จันมะโน. “การตรวจสอบดุลพินิจการกำหนดโทษจำเลย.” การศึกษาค้นคว้าอิสระ บัณฑิตวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต, 2560.

ภาษาต่างประเทศ

C. Foster. “Will Clinical Guideline Replace Judge? Medicine and Law.” westlaw.com. December 2006. pp.588. 590. ใน เพลินตา ตันรังสรรค์. น. 107-108.

Wayne R. LaFave. Criminal Law. 4 th edition. St. Paul. Minn: West, 2003.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-05-01

รูปแบบการอ้างอิง

ณ ระนอง ห., & ลิปิพันธ์ จ. (2025). ความรับผิดทางอาญาของแพทย์ กรณีศึกษา การกระทำโดยประมาท. Pridi Banomyong Law Journal Dhurakij Pundit University, 14(1), 34–47. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/LAW_DPU/article/view/269695

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย