การอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านในจังหวัดสุพรรณบุรี เมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรี

ผู้แต่ง

  • ณกมล ปุญชเขตต์ทิกุล คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร.
  • มงคล นาฏกระสูตร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร.

คำสำคัญ:

การอนุรักษ์วัฒนธรรม, การพัฒนาของเพลงพื้นบ้านไห่เหมิน, เมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรี, แบบจำลองทางสังคม, จังหวัดสุพรรณบุรี

บทคัดย่อ

      การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบริบทการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านในจังหวัดสุพรรณบุรี เมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรี 2) วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน และ 3) นำเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้ที่เหมาะสมต่อการปฏิบัติงานจริง โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key informants) จำนวน 60 คน ประกอบด้วย สมาชิกชุมชนผู้อนุรักษ์ ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ และบุคลากรทางการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ การสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง และการสนทนากลุ่ม (Focus group discussion) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) และการตีความเชิงระบบ

       ผลการวิจัยพบว่า บริบทการอนุรักษ์เพลงพื้นบ้านมีความสัมพันธ์เชิงลึกกับโครงสร้างทางสังคม โดยเพลงพื้นบ้านทำหน้าที่เป็นทุนทางวัฒนธรรมและเครื่องมือทางสังคมในการหล่อหลอมอัตลักษณ์และความสามัคคี อย่างไรก็ตาม เมื่อโครงสร้างสังคมมีความซับซ้อนมากขึ้น ส่งผลให้บทบาทของเพลงพื้นบ้านลดน้อยลง ปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการอนุรักษ์ในสภาวะปัจจุบัน ประกอบด้วย การจัดทำระบบฐานข้อมูลวิจัย การบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน และการบรรจุเนื้อหาในหลักสูตรสถานศึกษา การวิจัยครั้งนี้จึงนำเสนอแนวทาง "แบบจำลองทางสังคม" (Social model) เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายสังคมผ่านการบูรณาการหลักสูตร กิจกรรม และนโยบายที่มีความสอดคล้องเชิงโครงสร้าง เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

กาญจนา แสงเงิน, และ สุวิทย์ ธีรศาศวัต. (2565). รูปแบบการอนุรักษ์และพัฒนาเพลงพื้นบ้านจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรีขององค์การยูเนสโก. วารสารศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 14(2), 162–186.

ณัฏฐินี ทองดี. (2560). เศรษฐกิจพอเพียง: รากฐานการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่การท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 12(1), 35–58.

นพรัตน์ แสงเจริญ. (2561). การอนุรักษ์วัฒนธรรมในยุคดิจิทัล. วารสารการจัดการภาครัฐ, 15(3), 89–105.

รุ่งโรจน์ สุวรรณโคตร. (2564). การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและผลกระทบต่อวัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้าน. วารสารสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา, 24(1), 121–140.

วัฒนา พรหมมานนท์. (2562). เพลงพื้นบ้าน: เครื่องมือทางสังคมในอดีตและความท้าทายในปัจจุบัน. วารสารวิจัยวัฒนธรรม, 30(2), 55–72.

วีรศักดิ์ สุขสำราญ. (2565). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาที่ยั่งยืน. วารสารการพัฒนาชุมชน, 21(2), 40–58.

สุพรรณี ธีระกุล. (2560). นโยบายวัฒนธรรมและการนำไปปฏิบัติในพื้นที่ท้องถิ่น. วารสารนโยบายสาธารณะ, 14(1), 78–95.

Appadurai, A. (1996). Modernity at large: Cultural dimensions of globalization. University of Minnesota Press.

Florida, R. (2002). The rise of the creative class: And how it's transforming work, leisure, community, and everyday life. Basic Books.

Geertz, C. (1973). The interpretation of cultures: Selected essays. Basic Books.

MacCannell, D. (1999). The tourist: A new theory of the leisure class. University of California Press.

Richards, G., & Raymond, C. (2000). Creative tourism. ATLAS News, 23, 16–20.

UNESCO. (2023). Reimagining education for sustainable futures: Global education monitoring report 2023. UNESCO Publishing. https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000385020

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-23

รูปแบบการอ้างอิง

ปุญชเขตต์ทิกุล ณ., & นาฏกระสูตร ม. (2025). การอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านในจังหวัดสุพรรณบุรี เมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรี. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ, 14(2), 85–93. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/NBU/article/view/284114

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย