การรับรู้การปฏิบัติกิจกรรมพยาบาล ตามบทบาทของพยาบาลในการป้องกันระดับปฐมภูมิ ต่อการใช้สารเสพติดในชุมชน: กรณีศึกษาจากจังหวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ภาคใต้ตอนกลาง

ผู้แต่ง

  • วุฒิพร ดวงขวัญ, 6852279 โรงพยาบาลป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง
  • ผจงศิลป์ เพิงมาก, 6852279 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  • ทิพย์ภา เชษฐเชาวลิต, 6852279 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

คำสำคัญ:

การปฏิบัติกิจกรรมพยาบาล, บทบาทพยาบาล, การป้องกันระดับปฐมภูมิ, การใช้สารเสพติด, ชุมชน

บทคัดย่อ

งานวิจัยเชิงพรรณนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้การปฏิบัติกิจกรรมพยาบาล ตามบทบาทของพยาบาลในการป้องกันระดับปฐมภูมิต่อการใช้สารเสพติดในชุมชน รวมถึง เพื่อศึกษาปัจจัยสนับสนุน และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพที่รับผิดชอบงานด้านยาเสพติดของโรงพยาบาลชุมชน และศูนย์สุขภาพชุมชน ในจังหวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ภาคใต้ตอนกลาง จำนวน 75 คน สุ่มตัวอย่างโดยวิธีตามความสะดวก ด้วยความสมัครใจที่จะเข้าร่วมในการศึกษา เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม(ปลายปิด) เกี่ยวกับข้อมูลทั่วไป และการปฏิบัติกิจกรรมพยาบาล ตามบทบาทของพยาบาลในการป้องกันระดับปฐมภูมิต่อการใช้สารเสพติดในชุมชน รวมถึง ปัจจัยสนับสนุน และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน ตรวจสอบความตรงในเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ทดสอบความเที่ยงด้วยสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของ              ครอนบาค ได้ค่าความเที่ยง 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติไคแสคว์

ผลการศึกษา กลุ่มตัวอย่างรับรู้การปฏิบัติกิจกรรมพยาบาล ตามบทบาทของพยาบาลในการป้องกันระดับปฐมภูมิต่อการใช้สารเสพติดในชุมชน มีค่าคะแนนเฉลี่ยบทบาทโดยรวม (9 ด้าน) อยู่ในระดับปานกลาง เท่ากับ 2.84 ± 1.06 (ช่วงคะแนน 1-5) เมื่อแยกวิเคราะห์ข้อมูลเป็นรายด้าน พบว่าบทบาท ผู้พิทักษ์ผลประโยชน์มีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เท่ากับ 3.84 ± 1.02 ในขณะที่บทบาทผู้วิจัยมี ค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับน้อย เท่ากับ 2.27 ± 0.97 โดยที่บทบาทด้านอื่นๆมีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง และไม่พบความแตกต่างในการรับรู้การปฏิบัติกิจกรรมตามบทบาทของพยาบาลระหว่างกลุ่มผู้บริหารและผู้ปฏิบัติ เพศ ศาสนา หรือระดับการศึกษา ผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่ (ร้อยละ 91) กล่าวว่าการมี เจตคติที่ดีต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญในการดำเนินงาน โดยที่  ร้อยละ 44 ระบุว่า การขาดความชัดเจนในแนวนโยบายของหน่วยงาน และการขาดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เป็นอุปสรรคที่สำคัญต่อการปฏิบัติกิจกรรมพยาบาลในการป้องกันระดับปฐมภูมิ

สรุป ผลการวิจัยบ่งชี้ว่าการกำหนดนโยบายการทำงานด้านยาเสพติดในการป้องกันระดับปฐมภูมิที่ชัดเจน และการวางแผนพัฒนาสมรรถนะของพยาบาลในการป้องกันระดับปฐมภูมิต่อการใช้สารเสพติดในชุมชน จะเป็นประโยชน์ช่วยให้พยาบาล/บุคลากรทีมสุขภาพสามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินการป้องกันการใช้สารเสพติดในระดับปฐมภูมิแก่ผู้รับบริการและกลุ่มเสี่ยงในชุมชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต

เอกสารอ้างอิง

เครือข่ายวิชาการ วิจัย และข้อมูลสารเสพติดในภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. 2553. สถานภาพการใช้สารเสพติด พ.ศ. 2551-2553 ภาคใต้. กรุงเทพฯ: บริษัทจรัลสนิทวงศ์การพิมพ์จำกัด.
เมตตา เลิศเกียรติรัชตะ ผจงศิลป์ เพิงมาก บุญวดี เพชรรัตน์. “การรับรู้การปฏิบัติกิจกรรมพยาบาลการเข้าร่วมกิจกรรมขณะบำบัดรักษาและการทำหน้าที่ของครอบครัว ในการป้องกันการเสพยาซ้ำ ณ ศูนย์บำบัดรักษายาเสพติด ในพื้นที่ภาคใต้”. วารสาร AL-NUR บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยฟาฏอนี. 2560; 12 (23): หน้า 147-158
วันทนา สุริยวงศ์ ผจงศิลป์ เพิงมาก ทิพย์ภา เชษฐ์เชาวลิต. “การปรับเปลี่ยนหน้าที่ของครอบครัวผู้เสพ ยาบ้า”. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย. 2551; 16 (2): หน้า 130-138.
สถาบันธัญญารักษ์. 2547. บทสรุปการดำเนินงานด้านยาเสพติด หมวดที่ 1 มาตรฐานการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ/ผู้ติด และหมวดที่ 5 ระบบข้อมูลยาเสพติด. ใน เอกสารประกอบการประชุมสุดยอดวิชาการยาเสพติด ประจำปี 2547; 22-23 มีนาคม 2547; ณ สถาบันธัญญารักษ์. กรุงเทพมหานคร: กรมการแพทย์.
สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานบริหารสาธารณสุข. 2557. รายงานผู้ป่วยยาเสพติด(บสต). เข้าถึงได้จาก http://antidrug.moph.go.th/beta2/ สืบค้น 30 ธันวาคม 2557.
สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, สำนักยุทธศาสตร์. 2558. สถานการณ์ยาเสพติดและ แนวโน้มของปัญหา ประกอบการพัฒนายุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในช่วงแผนพัฒนาฯฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) เข้าถึงได้จาก
http://antidrug.moph.go.th/ สืบค้น 13 ตุลาคม 2559.
Barton JA., Haspeslagh JA., and Lundy MP. 2016. Substance Abuse and Misuse as Community Health Problems. In: Lundy KS. & Janes S. (editors). Community Public Health Nursing: Caring for the Public’s Health. (3rd ed). Burlington: Jones & Barlett Learning; p. 587- 600
Burda C. 2013. “Substance Use Disorders”. In: Maurer FA & Smith CM. (editors). Community/Public Health Nursing Practice: Health for Families and Populations. (5th ed). St. Louis: Elsevier Saunders; p. 645-651.
Clark, MJ. 2008. Community Health Nursing: Advocacy for Population Health. (5th ed). New Jersey: Pearson Education, Inc.; p. 3-24.
Finnell DS. 2018. “Behavioral Health in the Community”. In: Rector C. (editor). Community and Public Health Nursing: Promoting the Public’s Health (9th ed). International edition, Philadelphia: Wolters Kluwer; p. 965.
Jardine-Dickenson K. 2015. “Substance Abuse”. In: Nies MA. & McEwens M. (editors). Community Public Health Nursing: Promoting the Health of Populations. (6th ed). St. Louis: Elsevier Saunders; p. 535-538.
Mathre ML. 2014. “Substance Abuse in the Community”. In: Stanhope M. and Lancaster J. (editors). Foundations of Community Health Nursing: Community-Oriented Practice. (3rd ed), St. Louis: Mosby Elsevier; p. 365-380.
National of Health. 2009. National Institute on Drug Abuse. Principles of Drug Addiction Treatment: A Research-based Guide. (2nded), U.S. Department of Health and Human Services.
Wayne WD., & Cross CL. 2013. Biostatistics: a foundation for analysis in the health sciences. (10th ed.), New Jersey: Wiley Publishing.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-06-25