การพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวโดยใช้โปรแกรมการฝึกการทำงานร่วมกันของระบบประสาทและกล้ามเนื้อของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้น ในจังหวัดภาคใต้ชายแดน

ผู้แต่ง

  • Thiradanai Sarapee -

คำสำคัญ:

ทักษะการเคลื่อนไหว, การฝึกการทำงานร่วมกันของระบบประสาทกับกล้ามเนื้อ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโปรแกรมการฝึกการทำงานร่วมกันของระบบประสาทกับกล้ามเนื้อของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้น ในจังหวัดภาคใต้ชายแดน เพื่อเปรียบเทียบทักษะการเคลื่อนไหวก่อนและหลังการฝึกโดยใช้โปรแกรมการฝึกการทำงานร่วมกันของระบบประสาทกับกล้ามเนื้อ ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้น ในจังหวัดภาคใต้ชายแดนที่ได้รับการฝึกการฝึกการออกกำลังกายด้วยโปรแกรม และเพื่อเปรียบเทียบทักษะการเคลื่อนไหวของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้น ระหว่างนักเรียนที่ใช้โปรแกรมการฝึกการทำงานร่วมกันของระบบประสาทกับกล้ามเนื้อกับนักเรียนที่ทำกิจกรรมการเคลื่อนที่เคลื่อนไหวในคาบเรียนวิชาพลศึกษาตามปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้น อายุระหว่าง   7-9 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนเมืองปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 36 คน แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม จำนวน 18 คน และกลุ่มทดลอง จำนวน 18 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือโปรแกรมการฝึกการทำงานร่วมกันของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ แบบทดสอบระดับความสามารถสมรรถภาพทางกายมาตรฐานสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ t-test dependent  ผลการวิจัยพบว่า

  1. การพัฒนาโปรแกรมการฝึกการทำงานร่วมกันของระบบประสาทกับกล้ามเนื้อของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้น ในจังหวัดภาคใต้ชายแดน ประกอบด้วยการพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว, หลักการสำหรับทักษะการเคลื่อนไหว, หลักสำคัญการออกกำลังกายสำหรับเด็ก และการพัฒนาการประสานงานการเคลื่อนไหว โดยผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินกิจกรรมที่เน้นเป็นการทำงานร่วมกันของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ตากับมือ ตากับเท้า
  2. ผลการเปรียบเทียบทักษะการเคลื่อนไหวก่อนและหลังการฝึกโดยใช้โปรแกรมการฝึกการทำงานร่วมกันของระบบประสาทกับกล้ามเนื้อ ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้น ในจังหวัดภาคใต้ชายแดน ที่ได้รับการฝึกการออกกำลังกายด้วยโปรแกรม พบว่า นักเรียนชายที่ทำการฝึกโดยใช้โปรแกรมการฝึกการทำงานร่วมกันของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (กลุ่มทดลอง) มีค่าเฉลี่ยทักษะการเคลื่อนไหวด้านความอ่อนตัว (นั่งงอตัว), ด้านความคล่องแคล่วว่องไว (วิ่งเก็บของ), ด้านความแข็งแรง (การกระโดดไกล), ด้านความอดทนของกล้ามเนื้อ (ลุก-นั่ง 30 วินาที) พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และด้านความเร็ว (วิ่ง 50 เมตร) พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สำหรับนักเรียนหญิง พบว่า ทักษะการเคลื่อนไหวในทุกรายการมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
  3. ผลการเปรียบเทียบทักษะการเคลื่อนไหวของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้น ระหว่างนักเรียนที่ใช้โปรแกรมการฝึกการทำงานร่วมกันของระบบประสาทกับกล้ามเนื้อกับนักเรียนที่ทำกิจกรรมการเคลื่อนที่เคลื่อนไหวในคาบเรียนวิชาพลศึกษาตามปกติ พบว่า ทักษะการเคลื่อนไหวภายหลังที่จะได้รับการฝึกออกกำลังกาย มีค่าเฉลี่ยทักษะการเคลื่อนไหวแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ในด้านความคล่องแคล่วว่องไว (การวิ่งเก็บของ) และด้านความเร็ว (การวิ่ง 50 เมตร) ส่วนด้านความอ่อนตัว (นั่งงอตัว), แรงระเบิดของกล้ามเนื้อ (การกระโดดไกล), และด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (ลุก-นั่ง) ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สำหรับนักเรียนหญิง พบว่า ทักษะการเคลื่อนไหวภายหลังที่จะได้รับการฝึกออกกำลังกาย มีค่าเฉลี่ยทักษะการเคลื่อนไหวไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในทุกรายการ

 

เอกสารอ้างอิง

กรมอนามัย.การฝึกออกกำลังกายสำหรับเด็ก. (2562). สืบค้น 7 กุมภาพันธ์ 2564, จาก https://multimedia.anamai.moph.go.th.

กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2561). รายงานการพัฒนาเด็กและเยาวชน ประจำปี 2560. สืบค้น 5 มกราคม 2564, จาก https://www.dcy.go.th.

ถาวรินทร รักษ์บำรุง. (2557). หลักการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ. คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

ศักดิ์ชัย ศรีสุข และคณะ. (2561). ผลของโปรแกรมการเคลื่อนไหวทางกายที่มีต่อสมรรถภาพทางกายที่สัมพันธ์กับสุขภาพในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบ้านดอนยานาง จังหวัดนครพนม. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 8(3).

ศิวนันท์ พุทธะไชยทัศน์. (2560). การออกกำลังกายในเด็ก. สืบค้น 19 มีนาคม 2564, จาก https://www.kidactiveplay.com

สำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ.(2563). การออกกำลังกายสำหรับเด็กวัย6-12 ปี. สืบค้น 9 กุมภาพันธ์ 2564, จาก https://www.thaihealth.or.th

สิทธิพงษ์ ปานนาค.(2563). การพัฒนาการเรียนรู้ทักษะกลไกในกิจกรรมพลศึกษาบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูล. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สงคราม ,14(1).

Brain and life center. ทักษะการทำงานร่วมกันระหว่างมือกับตา. (2021 ). สืบค้น 7 กุมภาพันธ์ 2564, จาก https://www.brainandlifecenter.com.

Barnett Lisa M.; et al. (2016). Fundamental Movement Skills: An Important Focus.Journal of Teaching in Physical Education. 35(3): 219.

Rocking kids. (ม.ป.ป). Fine-Motor Development. สืบค้น 12 มกราคม 2564, จาก http://www.rockingkidsthailand.com.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-06-30