สืบสาย “ผ้าลายหงส์” ลายผ้าโบราณในวัฒนธรรมไทยวน สู่การออกแบบสมัยใหม่
คำสำคัญ:
ลวดลายผ้าทอ, ตารางกราฟ, AdobeIllustratorบทคัดย่อ
บทความนี้เกิดจากทผู้เขียนได้เคยอ่านหนังสือผ้าลาย "นาค":วัฒนธรรมร่วมชนชาติในภูมิภาคเอเชีย(พ.ศ.2557) โดยอาจารย์เผ่าทองทองเจือที่กล่าวไว้ว่า“พญานาคถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่ง ความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา เชื่อว่าเป็นบันไดนำไปสู่ความเชื่อเรื่องดินแดนแห่งจักวาลในบางท้องถิ่นก็เชื่อว่าพญานาคอาศัยอยู่ใต้ดิน หรือบาดาลชีวิตคนตั้งแต่เกิดจนถึงตาย ผ้าทอสมัยโบราณ ในทุกวัฒนธรรมจึงมักทอสัญลักษณ์ของพญานาค หรือนาค ปรากฏอยู่และสืบทอด ต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน หรือแม้แต่การปรากฏในสื่อต่างก็นำเสนอเรื่องราวของพญานาคในเวลาต่อมา ผู้เขียนศึกษาเรื่องราวของลวดลายผ้ามากขึ้นจึงพบว่าลวดลายสัตว์ที่ปรากฏบนผ้าทอมือจากลวดลายนาค แล้วยังมีเรื่องราวของสัตว์ตระกูลหงส์ หรือ นก โดยเฉพาะบนผ้าซิ่นตีนจก ในตระกูลไทยวนมัก จะมี ลวดลาย “หงส์ถือโคม” ปรากฏอยู่บนผ้าซิ่นเสมอ ซึ่งมีความหมายเชื่อมโยงถึงคติความเชื่อทางพุทธศาสนาเช่นเดียวกับผ้าลายพญานาค แต่มักจะปรากฎในงานวิจัยเล่มอื่นแบบสั้นๆ “ตามคติไทยและคติฮินดู - พุทธ ถือว่าหงส์ เป็นที่เกี่ยวข้องกับตำนานทางทางศาสนา เช่น เป็นพาหนะของพระพรหม เป็นต้น และศิลปะไทยถือว่า หงส์เป็นของสูงจึงได้เชิญมาเป็นสัญลักษณ์ของเรือพระราชพิธีหรืออีนัยหนึ่งคือสุพรรณหงส์นั้นเอง” (จูฑะวิภาค,2555 : 25) หรือแม้กระทั่งในประเทศจีนเองก็มีความเชื่อเกี่ยวกับตำนานหงส์ที่มีความใกล้เคียงกับตำนาน “นกฟีนิกซ์” ของประเทศจีนด้วยเช่นกันจึงจะเห็นได้ว่าตำนานเรื่องหงส์ไม่ต่างกับตำนานเรื่อง “นาค” ที่มีความเชื่อร่วมกันหลากหลายภูมิภาค แต่ในส่วนของรูปแบบการทอผ้าลาย หงส์ กลับมีข้อจำกัดตายตัว มากกว่าลายพญานาคมากนัก โดยมักนิยมทอเป็นลวดลายหงส์ถือโคม, หงส์คู่ เป็นต้น หรือ อาจปรากฎในลวดลายที่เรียกว่า “ห้องนก” หรือ บางพื้นที่เรียกว่า “ลายโคม” ซึ่ง เป็น รูปแบบของลายเรขาคณิตมักจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน มีสัญลักษณ์รูปนก หรือหงส์ อยู่ใน ห้องอีกที ขาดการประยุกต์และต่อยอดของลวดลายในรูแบบสมัยใหม่ผู้เขียนจึงมีการวิเคราะห์โครงสร้าง ของผ้าลายหงส์ การใช้รูปแบบกราฟตารางลายผ้าในโปรแกรม AdobeIllustratorเพื่อให้เห็น โครงสร้าของผ้าทอลายหงส์ในกลุ่มชาติพันธ์ไทยวนในรูปแบบต่างๆ พร้อมการวิเคราะห์เพื่อให้เกิดการ ต่อยอดในการนาไปใช้ต่อไป