พฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ การเปิดรับข่าวสารและการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ
คำสำคัญ:
สื่อออนไลน์, การเปิดรับข่าวสาร, การมีส่วนร่วม, โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบล แบบบูรณาการบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ ศึกษาพฤติกรรมการเปิดรับข่าวสาร สำรวจความพึงพอใจของประชาชน และเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการตามปัจจัยส่วนบุคคลที่ต่างกัน กลุ่มตัวอย่างคือ ประชาชนในตำบลไผ่พระ ตำบลคู้สลอด ตำบลกกแก้วบูรพา และตำบลหันตรา จำนวน 394 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 51-59 ปี จบการศึกษาในระดับประถม ประกอบอาชีพหลักคือรับจ้างทั่วไป และโดยส่วนใหญ่ไม่มีอาชีพเสริม รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001-10,000 บาท มีพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์คือ สื่อออนไลน์เฟสบุคเป็นสื่อที่ใช้บ่อยที่สุด ช่วงเวลาที่ใช้บ่อยที่สุดคือ ช่วงเย็น (17.01-20.00 น.) โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อความบันเทิง พฤติกรรมการเปิดรับข่าวสารทางสื่อออนไลน์อยู่ในระดับมาก โดยกลุ่มตัวอย่างแสวงหาข้อมูลจากเฟสบุค มากที่สุด เปิดรับข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการ U2T มากที่สุด และเปิดรับข่าวสารเมื่อต้องการรายได้เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจสมัครโครงการ U2T มากที่สุด ความพึงพอใจต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมโครงการ U2T พบว่าในภาพรวมและรายข้อมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากที่สุด โดยจัดอันดับ 3 อันดับจากมากไปน้อยดังนี้ อันดับ 1 ความพึงพอใจที่มีต่ออาจารย์ อันดับ 2 กิจกรรมการแข่งขันกีฬาและความพึงพอใจที่มีต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ และอันดับ 3 การจัดอบรมทำบัญชีครัวเรือนและก่อตั้งตลาดนัดชุมชน ผลการทดสอบสมมติฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อโครงการ U2T พบว่า ระดับการศึกษา และอาชีพเสริมต่างกัน มีส่วนร่วมในการเข้าร่วมโครงการ U2T แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05