การพัฒนาตัวบ่งชี้ความรับผิดชอบต่อสังคมของสถาบันอาชีวศึกษาเอกชน ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ

ผู้แต่ง

  • อัญชลี ทองประกอบ บริษัท อินเตอร์โรล (ประเทศไทย) จำกัด

คำสำคัญ:

ความรับผิดชอบต่อสังคม, สถาบันอาชีวศึกษาเอกชน, สาขาบริหารธุรกิจ

บทคัดย่อ

มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาตัวบ่งชี้ความรับผิดชอบต่อสังคมของสถาบันอาชีวศึกษา
เอกชน ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ 2) วิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของตัวบ่งชี้ความรับผิดชอบ
ต่อสังคม 3) ศึกษาความเป็นได้ในการนำตัวบ่งชี้ไปใช้วัดความรับผิดชอบต่อสังคมของสถาบัน
อาชีวศึกษาเอกชน ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ การเก็บรวบรวมข้อมูลจากสถาบันอาชีวศึกษาเอกชน
สาขาบริหารธุรกิจ ปีการศึกษา 2558 ได้ขนาดตัวอย่างจำนวน 660 คน จากการสุ่มตัวอย่าง
แบบหลายขั้นตอน สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย วิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน ความเที่ยงของ
องค์ประกอบและการวิเคราะห์ความแปรปรวนเฉลี่ยของตัวแปรแฝงที่ถูกสกัดได้ ผลที่ได้จาก
การวิจัยครั้งนี้ พบว่าตัวบ่งชี้ความรับผิดชอบต่อสังคมของสถาบันอาชีวศึกษาเอกชน สาขา
บริหารธุรกิจ 5 ด้านคือ ผู้มีส่วนได้เสีย สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และอาสาสมัคร
แต่ละด้านมีค่าเฉลี่ยระดับมาก และมีความสอดคล้องกันระหว่างการดำเนินงานกับความคาดหวัง
ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของตัวบ่งชี้ความรับผิดชอบ
ต่อสังคมของสถาบันอาชีวศึกษาเอกชน ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิง
ประจักษ์ และผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำตัวบ่งชี้ไปใช้วัดความรับผิดชอบต่อสังคมของ
สถาบันอาชีวศึกษาเอกชน สาขาบริหารธุรกิจ พบว่ากลุ่มค่าเฉลี่ยสูง เน้นความรับผิดชอบต่อสังคม
ทั้ง 5 ด้าน ระดับสูงโดยมีความคิดเห็นว่าควรมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนอันเป็นผลสู่รากฐานทาง

เศรษฐกิจของประเทศ และกลุ่มค่าเฉลี่ยต่ำ เน้นความรับผิดชอบต่อสังคม 2 ด้าน ได้แก่ สังคม
วัฒนธรรม และอาสาสมัคร โดยมีความคิดเห็นว่าสามารถสื่อให้เห็นภาพกิจกรรมที่ทำ และ
ส่งเสริมภาพลักษณ์ของสถาบันอาชีวศึกษาเอกชน

ประวัติผู้แต่ง

อัญชลี ทองประกอบ, บริษัท อินเตอร์โรล (ประเทศไทย) จำกัด

700/685 ม.1 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี 20160

เอกสารอ้างอิง

พิพัฒน์ นนทนาธรณ์. (2553). การจัดการความรับผิดชอบ ต่อสังคมขององค์กร การสร้างข้อได้เปรียบ
ในการแข่งขัน อย่างยั่งยืน. นนทบุรี: ธิงค์ บียอนด์ บุ๊กส.
ภาวิณีย์ มาตแม้น. (2557). ปัจจัยทางการตลาดเพื่อพัฒนาภาพลักษณ์วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน.
วารสารสุโขทัยธรรมาธิราช, 26(2), 94-105.
สมาคมสถาบันการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย. (2558). สืบค้นเมื่อ วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558
http://www.apheit.org/
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2557). การสำรวจความต้องการแรงงานและการขาดแคลนแรงงานของสถาน
ประกอบการ. กรุงเทพฯ: สำนักสถิติพยากรณ์.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2557). รายงานประจำปี 2557 สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
กับพันธกิจพัฒนาการศึกษาชาติ. กรุงเทพฯ: บริษัท 21 เซ็นจูรี่ จำกัด.
สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา. (2557). ภารกิจและนโยบาย. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม พ.ศ. 2558,
เว็บไซต์ http://www.vec.go.th/Default.aspx?tabid=87
Hair, J. F., Black, W. C., Babin, B. J., & Anderson, R. E. (2010). Multivariate data analysis (7th
ed.). New Jersey: Prentice Hall, Upper Saddle River.
Kim, R. C., & O’Gorman, K. D. (2011). Corporate social responsibility as a dynamic internal
organizational process: A case study. Journal of Business Ethics, 101(1), 61-74.
Kotler, P., & Lee, N. (2551). Corporate social responsibility doing the most good for your
company and your cause (รมณียฉัตร แก้วกิริยา, แปล). กรุงเทพฯ: ยูนิเวอร์แซลพับลิชิ่ง.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities.
Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Schreck, P. (2011). Review the business case for corporate social responsibility: New evidence and
analysis. Journal of International business Ethics, 10(1), 167-188.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-09-11

รูปแบบการอ้างอิง

ทองประกอบ อ. (2018). การพัฒนาตัวบ่งชี้ความรับผิดชอบต่อสังคมของสถาบันอาชีวศึกษาเอกชน ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ. วารสารบริหารธุรกิจและการจัดการปริทัศน์, 10(1), 109–122. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/bahcuojs/article/view/145028

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย