ประสิทธิภาพการบริหารการเงินของครัวเรือนในจังหวัดพะเยา
คำสำคัญ:
การบริหารการเงิน, ประสิทธิภาพ, ครัวเรือนบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์การวิจัยคือ เพื่อประเมินประสิทธิภาพการบริหารการเงินในครัวเรือนและศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการบริหารการเงินของครัวเรือนในจังหวัดพะเยา โดยใช้กลุ่มตัวอย่าง 383 ครัวเรือน ด้วยวิธีการสุ่มแบบชั้นภูมิ เครื่องมือการวิจัยคือแบบสอบถาม ซึ่งรวบรวมข้อมูลลักษณะทางประชากรศาสตร์ ข้อมูลด้านการเงินของครัวเรือน และข้อมูลการบริหารการเงินในครัวเรือน ผู้วิจัยใช้การวิเคราะห์เส้นทางเพื่อค้นหาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการบริหารการเงินของครัวเรือน
ผลการวิจัยสามารถสรุปเป็น 2 ประเด็นสำคัญคือ 1) ภาพรวมของประสิทธิภาพการบริหารการเงินของครัวเรือนอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ย 8.49 จากคะแนนรวม 16 คะแนน โดยประสิทธิภาพในการจัดการด้านสินเชื่อและการจัดการด้านการออมอยู่ในระดับสูง แต่สำหรับประสิทธิภาพในการจัดการด้านกระแสเงินสดและการจัดการด้านการลงทุนอยู่ในระดับปานกลาง 2) จากการวิเคราะห์เส้นทางแสดงให้เห็นว่า ระดับการศึกษา จำนวนรายได้หลัก จำนวนรายได้เสริม ค่าอุปโภคบริโภคในครัวเรือน และจำนวนเงินออม มีอิทธิพลบวกต่อประสิทธิภาพการบริหารการเงินของครัวเรือน ในทางตรงกันข้ามค่ารักษาพยาบาลของครัวเรือนจะมีอิทธิพลลบต่อประสิทธิภาพการบริหารการเงินของครัวเรือน ทั้งนี้ผลการวิจัยจะสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางสำหรับการวางแผนการบริหารการเงินของครัวเรือนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาด้านหนี้สินและความยากจน
เอกสารอ้างอิง
กรมการปกครอง. (2562). จำนวนครัวเรือนในจังหวัดพะเยา. สืบค้นเมื่อ 6 ธันวาคม 2562, จาก กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เว็บไซต์: https://www.dopa.go.th/main/web_index.
กัลยา วานิชย์บัญชา. (2556). การวิเคราะห์สมการโครงสร้าง (SEM) ด้วย AMOS. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัดสามลดา.
กฤษฎา เสกตระกูล. (2553). การวางแผนการเงินส่วนบุคคล: เมื่อประชาชนมั่งคั่ง ประเทศก็มั่นคง. สืบค้นเมื่อ 2 ธันวาคม 2562, จาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เว็บไซต์: https://member.set.or.th/ set/education/knowledgedetail.do?contentId= 53 5&type=article
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. (2553). พื้นฐานการวางแผนการเงิน. กรุงเทพฯ: บุญศิริการ พิมพ์ จำกัด.
นิตยา ลิ้มไพศาล. (2560). ผลกระทบของหนี้ครัวเรือนที่มีต่อเศรษฐกิจไทยและมาตรการรองรับ. วารสารธุรกิจปริทัศน์, 9(2), 268-282.
นัคมน อ่อนพุทธา, วิมล หลักรัตน์, ญาณิศา ศรีบุญเรือง, และจักรพันธ์ โสมะเกษตริน. (2561). การจัดการการเงินในครัวเรือนของประชาชนในเขตตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ, 12(1), 40-50.
รดา อดุลย์วัฒนกุล. (2549). ปัจจัยกำหนดการออมภาคครัวเรือนและพฤติกรรมการออมภาคครัวเรือนในประเทศ. ปริญญานิพนธ์เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
รัชนีกร วงศ์จันทร์. (2558). การบริหารการเงินส่วนบุคคล (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: บุญศิริการพิมพ์ จำกัด.
ศิรินุช อินละคร. (2559). การเงินบุคคล (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สุดารัตน์ พิมลรัตนกานต์. (2555). การเงินส่วนบุคคล. กรุงเทพฯ: บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน).
สุนี ศักรนันทน์, วรรณี บรรทัด, สุมาลี จิวะมิตร, และดารณี พุทธวิบูลย์. (2554). การบริหารสินเชื่อ (พิมพ์ครั้งที่ 21). นนทบุรี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
สุภมาส อังศุโชติ และกาญจนี กังวานพรศิริ. (2558). แนวทางและมาตรการส่งเสริมการออมของผู้สูงอายุตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง: กรณีศึกษาจังหวัดนนทบุรี. วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา (สาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์), 7(14), 146-158.
สุวิมล ติรกานันท์. (2553). การวิเคราะห์ตัวแปรพหุในงานวิจัยทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2562). สถิติหนี้สินภาคครัวเรือนของจังหวัดพะเยา. สืบค้นเมื่อ 8 ธันวาคม 2562, จาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ เว็บไซต์: http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/ sector/th/08.aspx
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2562). สถิติหนี้สินภาคครัวเรือนของประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 8 ธันวาคม 2562, จาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ เว็บไซต์: http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/ th/08.aspx
เสาวนีย์ ณ นคร, อาแว มะแส, และรติพร ถึงฝั่ง. (2558). พฤติกรรมการบริโภค การเป็นหนี้ และคุณภาพชีวิตของชาวประมงทะเล ในตำบลสิชล อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, 10(33), 27-38.
Catherine, M. W. (1996). Financial management, coping and debt in households under fanatical strain. Journal of Economic Psychology, 17, 789-807.
Christopher, S. (2017). Tax measures and household financial behavior: Evidence from France. The Quarterly Review of Economics and Finance, 66, 127-135.
Denyelle, B. K., & Lynne, M. B. (2010). Family Financial Management-Planning for the Future. The University of Arizona. Retrieved December 12, 2018, from University of Arizona Website: https://cals.arizona.edu/backyards/sites/cals.arizona.edu.backyards/files/b10 spring_pp15-16.pdf
Dirk, B., Kees, G. K., & Rachel, A.J. P. (2016). Household financial planning and savings behavior. Journal of International Money and Finance, 69, 95-107.
Gerrit, A. (2011). The Division of Household Tasks and Household Financial Management. Zeitschrift fur Psychologie: Consumer Behavior & Economic Decisions, 219, 198-208.
Gerrit, A., IM de G., & WF van R. (2011). Mental budgeting and the management of household finance. Journal of Economic Psychology, 32, 546-555.
Marco, A., & Jinkook, L. (2018). Cognitive decline and household financial decisions at older ages. Retrieved December 11, 2018, from ScienceDirect Website: https://www.science direct.com/science/article/pii/S2212828X17300506
Marianne, A. H., Jeanne, M. H., & Sondra, G. B. (2003). Household Financial Management: The Connection between Knowledge and Behavior. Federal Reserve Bulletin, 310-322.
Marta, M. (2017). Evaluation of Household Finance Management Effectiveness in the Biggest Polish Cities. Acta Universitas Lodzensis, 1(327), 93-106.
Robert, V. K., & Daryle, W. M. (1970). Determining Sample Size for Research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Thi, H. P., Keong, Y., & Nicki, A. D. (2012). The impact of financial management practices and financial attitudes on the relationship between materialism and compulsive buying. Journal of Economic Psychology, 33, 461-470.
Vladimir, G. (2013). Organization of Financial Management in a Household. Middle-East Journal of Scientific Research, 17(1), 1-5.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์จะเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารธุรกิจปริทัศน์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว

