การพัฒนาต่อยอดต้นแบบอาหารท้องถิ่นบนฐานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1
คำสำคัญ:
การพัฒนาต่อยอด อาหารท้องถิ่น , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน1 , อาหารอีสานบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดสรรต้นแบบอาหารท้องถิ่นและพัฒนาต่อยอดต้นแบบอาหารท้องถิ่นบนฐานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ซึ่งได้แก่ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดเลย ด้วยการวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือในการวิจัยใช้การระดมสมองผ่านการสนทนากลุ่ม การสังเกตแบบมีส่วนร่วม การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ของแต่ละจังหวัดประกอบไปด้วย คณะกรรมการตัดสิน 3 คน ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัด 1 คน ตัวแทนสื่อมวลชน 2 คน ตัวแทนชุมชนผู้มีประสบการณ์การทำอาหารท้องถิ่นเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว 30 คน ตัวแทนหน่วยงานผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 12 คน โดยการคัดเลือกแบบเจาะจง ผลการวิจัยพบว่าการคัดสรรต้นแบบอาหารท้องถิ่นสำหรับเป็นอาหารเอกลักษณ์ประจำจังหวัด จำนวนรวมทั้งสิ้น 15 ต้นแบบ (จากจังหวัดละ 3 ต้นแบบ อาหารคาว 2 อย่าง หวาน 1 อย่าง ของ 5 จังหวัด) ซึ่งรายการอาหารที่ผ่านการพัฒนาต้นแบบอาหารท้องถิ่นฯ สามารถส่งมอบคุณค่าในด้านการรังสรรค์อาหารให้เหมาะกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน
เอกสารอ้างอิง
กองข้อมูลธุรกิจ. (2560). ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร. สืบค้นเมื่อ 20 เมษายนน 2562, จาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เว็บไซต์: https://www.dbd.go.th/download/document_file/Statisic/2560/T26/T26_201703.pdf
ฉวีวรรณ สุวรรณภา อรอนงค์ วูวงศ์และเสริมศิลป์ สุภเมธีสกุล. (2560). อาหารพื้นบ้าน: กระบวนการจัดการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและจริยธรรมทางสังคมในชุมชนภาคเหนือ. สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2563, จาก สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เว็บไซต์: https://bit.ly/3bNs6tT
ชนาภิวัฒน์ ขันทะและอุ่นเรือน เล็กน้อย. (2563). ปลาแดก : การเชื่อมโยงพหุวัฒนธรรมการบริโภคของคนอีสาน. วารสารวิจัยวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร, 4(2), 96-109.
ชิษณุพงศ์ ศิริโชตินิศากร. (2559). การพัฒนารูปแบบนวัตกรรมอาหารพื้นถิ่นเชิงสร้างสรรค์เพื่อการเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวในเขตจังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์. ดุษฎีนิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ณิชมน ภมร และพัชรี ตันติวิภาวิน. (2563). การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านวัฒนธรรมอาหารพื้นบ้านภาคเหนือตอนบนของไทย. วารสารรังสิตบัณฑิตศึกษาในกลุ่มธุรกิจและสังคมศาสตร์, 6(2), 28-44.
นวรัตน์ บุญภิละ. (2559). วิถีวัฒธรรม ภูมิปัญญาอาหารของชาวผู้ไทในจังหวัดอุดรธานี. วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต, 4(2), 224-234.
นันทินา ดำรงวัฒนกูลและคณะ. (2558). การสืบสานและการต่อยอดภูมิปัญญาอาหารท้องถิ่นด้วยการมีส่วนร่วมของชุมชน ตำบลแจ้ห่ม อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง. สืบค้นเมื่อ 20 เมษายน 2562, จาก งานวิจัยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เว็บไซต์: http://research.culture.go.th/medias/nt171.pdf
บาลกิจ อาแดและคณะ. (ม.ป.ป). การต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการส่งเสริมอาชีพในชุมชน : ศึกษากรณีการรวมกลุ่มทำไม้กวาดดอกหญ้าชุมชนตำบลกาหลง อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส. สืบค้นเมื่อ 20 เมษายนน 2564, จาก โครงการสหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง เว็บไซต์: http://www.islocal.ru.ac.th/images/ispdf/is60/balgees.pdf
ประวีณา นามพระประสม. (2561). การอนุรักษ์และสืบสานความหลากหลายทางชีวภาพของภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านอาหารพื้นเมืองภายใต้การมีส่วนร่วมของกลุ่มชาติพันธุ์อึมปี้ ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมือง จังหวัดแพร่. กระแสวัฒนธรรม, 19(35), 38-48.
พิมพ์ระวี โรจน์รุ่งสัตย์. (2018). การพัฒนารูปแบบการจัดการภาพลักษณ์อาหารท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้าง ความจงรักภักดีของนักท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบุรี. International Thai Tourism Journal, 14(1), 152-167.
วรรณษา แสนลำ และนัฏฐา มณฑล. (2560). ศึกษาเรื่องอาหารพื้นเมืองเพื่อสุขภาวะที่ดี ชุมชนตำบลตลาด จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่, 9(6), 445-457.
สุกัญญา ไหมเครือแก้ว และคณะ. (2560). ภูมิปัญญาวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นและความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่, 9(4), 274-296.
สุนีย์ วัฑฒนายน. (2557). 6 อาหารท้องถิ่น วัฒนธรรมการกินแบบพื้นบ้าน สืบสานสู่อาเซียน. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ สาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์, 1(1), 34-44.
สุภางค์ จันทวานิช. (2553). วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 18. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เสาวภา คักยพันธ์. (2558). วัฒนธรรมอาหารไทลือในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง : ไทย จีน พม่า และลาว. สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2563, จาก งานวิจัยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เว็บไซต์: http://research.culture.go.th/medias/th025.pdf
อรอนงค์ ทองมี. (2558). วัฒนธรรมอาหารล้านนา: การพัฒนาเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์. วารสารศิลปกรรมศาสตร์วิชาการ วิจัย และงานสร้างสรรค์ ราชมงคลธัญบุรี, 2(1), 25-54.
อำไพ พฤติวงพงศ์กุล. (2551). อาหารพื้นบ้านไทย ในตำราวิชาการอาหารเพื่อสุขภาพ. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2564, จาก กองการแพทย์ทางเลือก เว็บไซต์: https://bit.ly/3vmD2qf
อุทิศ ทาหอม และสุนันท์ เสนารัตน์. (2561). การประยุกต์ใช้ทุนทางวัฒนธรรมกับการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอีสาน. วารสารวนัมฎองแหรกพุทธศาสตรปริทรรศน์, 5(1), 15-24.
Cordova-Buiza, F., Gabriel-Campos, E., Castaño-Prieto, L., & García-García, L. (2021). The Gastronomic Experience: Motivation and Satisfaction of the Gastronomic Tourist—The Case of Puno City (Peru). Sustainability, 13(16), 1-17.
Kim, Y. G., Eves, A., & Scarles, C. (2009). Building a model of local food consumption on trips and holidays: A grounded theory approach. International journal of hospitality management, 28(3), 423-431.
Phengphol, N. (2011). The Application of Local Wisdom for Production of Condiment Isan'Food Ingredient into Commercial. American Journal of Applied Sciences, 8(12), 1258.
Somnasang, P., & Moreno-Black, G. (2000). Knowing, gathering and eating: knowledge and attitudes about wild food in an Isan village in Northeastern Thailand. Journal of Ethnobiology, 20(2), 197-216.
Sormaz, U., Akmese, H., Gunes, E., & Aras, S. (2016). Gastronomy in tourism. Procedia Economics and Finance, 39, 725-730.
Zepeda, L., & Leviten-Reid, C. (2004). Consumers' views on local food. Journal of food distribution Research, 35(3), 1-6.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารธุรกิจปริทัศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์จะเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารธุรกิจปริทัศน์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว

