ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐานที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาสังคมศึกษาและความตระหนักในการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
Main Article Content
บทคัดย่อ
วิจัยนี้สำรวจผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับชุมชนชุมชนเป็นฐานระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนและ 2) ความรู้ความเข้าใจในองค์ประกอบวัฒนธรรมท้องถิ่นของนักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้การจัดการชุมชนเป็นฐานเป้าหมายการวิจัยนักเรียนคือชั้นประถมศึกษาปีที่วัดนาอำเภอสวีจังหวัดชุมพรสำนักเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 17 คนองค์ประกอบการวิจัยคือ1) โครงสร้างองค์กรการเรียนรู้จำนวน 7 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนรายวิชาสังคม 3) แบบประเมินความสำรวจในการวิจัยวัฒนธรรมท้องถิ่น (ฉบับครูประเมิน) และ 4) แบบประเมินความเก็บข้อมูลในวัฒนธรรมวัฒนธรรม (ฉบับนักเรียนประเมิน) การศึกษาวิจัยท้องถิ่นข้อมูลวิเคราะห์นักเรียนวิจัยและวิเคราะห์มาตรฐานและวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบ
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ในชุมชนส่วนต่างๆ ของชุมชนเป็นฐานรายวิชาสังคมศึกษาเรื่องวัฒนธรรมท้องถิ่นมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนและเรียนก่อนและมีคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์เฉลี่ยถ่วงดุล 64.92 นักเรียนมีพัฒนาการในระดับสูง
- มุมมองในวัฒนธรรมท้องถิ่นของนักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้การจัดการชุมชนต่างๆ เนื้อหาจากแบบประเมินความในการวิจัยเป็นฐานวัฒนธรรมท้องถิ่น (ฉบับครูประเมินนักเรียน) มีคะแนนเฉลี่ยทั่วไปและส่วนประกอบในการเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นจากแบบประเมินความประกอบในไดรฟ์วัฒนธรรมท้องถิ่น (ฉบับนักเรียนประเมิน) มีคะแนนเฉลี่ยดูมากที่สุดและจากแหล่งข้อมูลเชิงวิเคราะห์นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่น มีความรู้สึกชื่นชมและยกย่องวัฒนธรรมท้องถิ่น
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ณัฐวดี ดวงใจ. (2560). การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ เรื่องประวัติศาสตร์เมืองลำปางเพื่อเสริมสร้างจิตสำนึก
วัฒนธรรมท้องถิ่นของนักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,
นพวรรณ ยอดธรรม. (2558). การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามแนววิถีประมงพื้นบ้านเพื่อส่งเสริมความ
ตระหนักทางวัฒนธรรมในเด็กปฐมวัย. กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
เบญจพร พลไกร. (2565). การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านสะกดคำภาษาไทย โดยใช้การจัดการ
เรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ร่วมกับแนวคิดเกมิฟิเคชั่น (Gamification) สำหรับนักเรียนที่มี
ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning loss) ในสถานการณ์การโควิด-19
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร,
ปัทมา นันทดิลก. (2564). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐานเรื่องการใช้ชีวิตแบบพอเพียง
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม,
พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2559). เทคนิคการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2562). เกณฑ์การให้คะแนน : เครื่องมือสำหรับครูเพื่อประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ที่
เที่ยงตรงและยุติธรรม. กรุงเทพฯ: วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
มาเรียม นิลพันธุ์. (2558). วิธีวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 9). นครปฐม: ศูนย์วิจัยและพัฒนาการทาง
การศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
โรงเรียนวัดนาสัก. (2565). รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self–Assessment Report :
SAR). ชุมพร: โรงเรียนวัดนาสัก.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิสดศรี-
สฤษดิ์วงศ์.
ศิรินภา สุนทรวิสัย. (2564). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐานเรื่องการอนุรักษ์วัฒนธรรม
และภูมิปัญญาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. มหาสารคาม: วารสารคุรุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม,
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560–2579.
กรุงเทพฯ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ:
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2564). รายงานผลการศึกษาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของผู้เรียน
ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในสถานการณ์โควิด-19 : สภาพการณ์ บทเรียน และแนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้เรียนรู้. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2566 http://www.onec.go.th/th.php/book/BookView/1932