แนวทางในการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการฟื้นฟูเยียวยาสิ่งแวดล้อมกับความรับผิดของผู้ก่อมลพิษในทางกฎหมายสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย
คำสำคัญ:
การฟื้นฟูเยียวยาสิ่งแวดล้อมบทคัดย่อ
ดุษฎีนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษา เรื่องการฟื้นฟูเยียวยาสิ่งแวดล้อมที่สูญเสียไปกับความรับผิดที่ผู้ก่อมลพิษควรรับผิดชอบต่อผู้เสียหายและต่อสังคม โดยผู้เสียหายในคดีสิ่งแวดล้อมควรได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสม สะดวก รวดเร็วและเป็นธรรม เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ต้องรีบแก้ไข ไม่ว่าตัวผู้เสียหายเองหรือสิ่งแวดล้อม แต่ด้วยพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(ฉบับที่2) พ.ศ.2561 ใช้อยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถที่จะแก้ไขเยียวยาผู้เสียหาย รวมถึงการแก้ไขฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การศึกษาเรื่องนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยเป็นการวิจัยเอกสารเป็นหลัก ซึ่งศึกษาจากตำรา บทความ รายงาน และวิจัยต่างๆ โดยเฉพาะศึกษาเปรียบเทียบหลักเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำขององค์การสหประชาชาติ การพัฒนาสิ่งแวดล้อมในระดับระหว่างประเทศ กฎเกณฑ์การฟื้นฟูเยียวยาสิ่งแวดล้อมประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ฟินแลนด์ และญี่ปุ่น มาเป็นตัวอย่างในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติฉบับนี้
ผลการศึกษาพบว่ากฎหมายสิ่งแวดล้อมยังมีช่องว่างในเรื่องต่างๆมากมาย ทั้งเรื่องการกำหนดค่าเสียหาย แนวทางปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรมในคดีสิ่งแวดล้อม อำนาจของศาลในการพิพากษาหรือสั่งในคดีสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับบทลงโทษในทางแพ่ง ทางอาญา และมาตรการทางปกครองเพื่อให้ผู้กระทำผิดเกิดความเกรงกลัวและสำนึกผิดด้วยการทำให้สิ่งแวดล้อมที่สูญเสียไปกลับคืนมา
ดังนั้นดุษฎีนิพนธ์นี้จึงเห็นควรแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อมแห่งชาติฯ โดยควรกำหนดให้ศาลมีอำนาจพิพากษาหรือสั่งเกินไปกว่าที่ปรากฏในคำฟ้องหรือคำขอบังคับเพื่อการกำหนดค่าเสียหายที่ผู้ก่อมลพิษต้องชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าความเสียหายที่แท้จริง การสั่งให้แก้ไขเยียวยาและการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่เสียไป รวมทั้งแนวทางปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรมในคดีสิ่งแวดล้อมให้มีความสะดวกรวดเร็ว ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรมและประเทศชาติโดยรวมต่อไป
เอกสารอ้างอิง
สืบค้นได้จาก https://www.deqp.go.th/service-portal/cop23/derivation_cop23
กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. 2556 , สืบค้นได้จาก
sub.led.go.th › hrled
จี๊ด เศรษฐบุตร,หลักกฎหมายแพ่งลักษณะละเมิด . กรุงเทพ: โรงพิมพ์เดือนตุลา, 2539
ประกอบ สีนะเปสนันท์. (2550, มิถุนายน). “การพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อมของประเทศญี่ปุ่น”
วารสารยุติธรรมปริทัศน์, 1, 6
ประยูร กันไพเราะ, ความรับผิดทางละเมิดในความเสียหายทางจิตใจที่เกิดกับผู้ได้รับความเสียหาย
ลำดับ สอง, วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2554
Restatement (Second) of Torts 908. “Damagees,Other than Compensatory or Nominal Damages, Awarded adainst a Person to Punish Him for His Outrageous Conduct and to Deter Him and Others Like Him from Similar Conduct in the Future.”
Prosser and Keeton. (n.p.,1984). Law of Torts 2 at 9. Quoted in Gerald W. Boston. (May,1992). “Environmental Torts and Punitive Damages (Part two)”. Journal of Products Liability, 14, 1.
Ohio v. United States Dep’t of Interior. 880 F.2d 432. 438 (D.C. Cir. 1989)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 วารสารวิชาการคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อความคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้เป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะ คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และกองบรรณาธิการไม่มีส่วนรับผิดชอบหรือไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับข้อคิดเห็นนั้น แต่ประการใด

