กฎหมายต้นแบบว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีก่อการร้าย
คำสำคัญ:
ก่อการร้าย วิธีพิจารณาคดี ความมั่นคงบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการจัดทำกฎหมายต้นแบบว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีก่อการร้าย สืบเนื่องจากการก่อการร้ายเป็นคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงซึ่งผู้กระทำความผิดใช้อาวุธหรือเครื่องมือที่อานุภาพทำลายล้างสูงในการกระทำความผิดโดยมีการฝึกฝนกองกำลังที่จะทำหน้าที่ในการก่อการร้าย มีการวางแผนการก่อการร้ายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ปกปิดวิธีดำเนินการหรือทำลายพยานหลักฐานและกระทำในลักษณะองค์กรหรือเครือข่ายขบวนการ ลักษณะดังกล่าวทำให้ยากแก่ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดโดยใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอันเป็นกฎหมายวิธีสบัญญัติซึ่งมีหลักเกณฑ์และวิธีการที่จำกัดไม่เพียงพอและเหมาะสมแก่การดำเนินคดีก่อการร้าย รวมถึงกฎหมายพิเศษอันเป็นเครื่องมือของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการก่อการร้ายแต่กฎหมายพิเศษเหล่านั้น มีความมุ่งหมายใช้บังคับกับเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงในหลายกรณีไม่ได้ใช้เฉพาะการป้องกันและปราบปราบการก่อการร้ายโดยเฉพาะและให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่อย่างกว้างขวางเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาความสงบเรียบร้อยทำให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนบางประการและปัญหาการรับฟังพยานหลักฐานในชั้นศาล จึงนำมาสู่การจัดทำกฎหมายต้นแบบเพื่อให้มีกฎหมายเฉพาะที่เหมาะสมกับการดำเนินคดีก่อการร้าย โดยวิเคราะห์กฎหมายภายใน กฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายต่างประเทศ และใช้วิทยาการวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วย การวิจัยเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก การมีส่วนร่วมออกแบบ และการประชุมรับฟังความเห็น
ร่างพระราชบัญญัติกฎหมายวิธีพิจารณาคดีก่อการร้าย พ.ศ. ... ตามที่ได้จัดทำขึ้นมา
มีบทบัญญัติจำนวน...มาตรา แบ่งออกเป็น... หมวด โดยมีหลักเกณฑ์ วิธีการและมาตรการที่มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับหลักสากลใน 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนชั้นก่อนการพิจารณา ประกอบด้วยการสืบสวน การสอบสวน การจับกุมและการควบคุมตัว ขั้นตอนชั้นพิจารณา ประกอบด้วย การพิจารณาคดีโดยใช้ระบบไต่สวน และระบบผู้พิพากษาสมทบ ขั้นตอนชั้นหลังพิจารณาพิพากษาประกอบด้วย การฝึกอบรมแทนการลงโทษ
ข้อเสนอแนะของการวิจัย ประกอบด้วย แนวทางการนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ ข้อเสนอแนะด้านกฎหมาย ข้อเสนอแนะด้านนโยบาย และข้อเสนอแนะประเด็นวิจัยต่อไป
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 วารสารวิชาการคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อความคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้เป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะ คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และกองบรรณาธิการไม่มีส่วนรับผิดชอบหรือไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับข้อคิดเห็นนั้น แต่ประการใด

