สิทธิและเสรีภาพของผู้ต้องขังในเรือนจำ: มุมมองของนักสังคมสงเคราะห์
บทคัดย่อ
การเปรียบเทียบพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 กับทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์จะเห็นได้ว่าในลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์ส่วนใหญ่สามารถตอบสนองได้ถึงขั้นที่ 1-5 ประกอบด้วยความต้องการทางกายภาพ ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย ความต้องการมิตรภาพและความรัก การเคารพนับถือและความสมบูรณ์ของชีวิต แต่สำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำความต้องการของผู้ต้องขังอยู่ในลำดับขั้นที่ 1-2 เท่านั้น ซึ่งทั้งสองขั้นนี้ก็ยังมีข้อจำกัดในบางประเด็น อาทิ ด้านการรักษาพยาบาลที่มีข้อจำกัดด้านบุคลากร ด้านที่อยู่อาศัยมีพื้นที่จำกัดในเรือนนอน ส่วนในขั้นที่ 3-5 กระทำได้ยากเพราะมีข้อจำกัดจากการถูกจำคุก ข้อเสนอแนะควรมีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิของผู้ต้องขัง ใน 5 ประเด็น ดังนี้ 1) สิทธิของผู้ต้องขังด้านการติดต่อญาติ เรือนจำควรปรับเปลี่ยนการเยี่ยมญาติให้มีหลายช่องทาง นอกเหนือจากการมาเยี่ยมญาติที่เรือนจำ จัดให้มีห้องสื่อสารออนไลน์โต้ตอบระหว่างผู้ต้องขังและสมาชิกในครอบครัวเพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านจิตใจ 2) เรือนจำจัดให้มีคลินิกให้คำปรึกษาในเรือนจำเพื่อคัดกรองผู้ต้องขังที่มีความเครียด มีอาการทางจิตเข้าสู่ระบบเพื่อการดูแลอย่างใกล้ชิด 3) เรือนจำควรจัดให้มีทีมสหวิชาชีพในการบำบัด ฟื้นฟู และพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง เน้นการเปลี่ยนแปลงความคิดและจิตใจเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม 4) สิทธิด้านที่อยู่อาศัย เรือนจำมีพื้นที่เรือนนอนที่จำกัด ควรมีการปรับปรุงเรือนนอนให้เหมาะสม ลดความแออัด 5) สิทธิด้านการประกอบอาชีพ ควรมีการเพิ่มเติมกฎหมายจัดตั้งคณะกรรมการในการในการส่งเสริมการประกอบอาชีพของผู้ต้องขังอย่างจริงจังและดำเนินงานประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อความคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้เป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะ คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และกองบรรณาธิการไม่มีส่วนรับผิดชอบหรือไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับข้อคิดเห็นนั้น แต่ประการใด

