แนวคิดและทฤษฎีในการศึกษาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: มุมมองเศรษฐศาสตร์การเมือง
คำสำคัญ:
นิเวศวิทยาการเมือง, การจัดการทรัพยากร, ความขัดแย้งทางนิเวศ, เศรษฐศาสตร์การเมืองบทคัดย่อ
บทความนี้ได้เสนอแนวคิดและทฤษฎีในการศึกษาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายใต้มุมมองเศรษฐศาสตร์การเมือง ประการแรกได้นำเสนอแนวคิดนิเวศวิทยาการเมือง (political ecology) เป็นแนววิเคราะห์เชิงวิพากษ์ชนชั้นในความสัมพันธ์เชิงอำนาจของผู้กระทำการต่าง ๆ ในสังคมรวมเข้ากับหลักการเชิงนิเวศวิทยา ประการที่สอง เสนอแนวคิดความขัดแย้งทางสิ่งแวดล้อม (environmental conflict) ความขัดแย้งทางสิ่งแวดล้อมเป็นผลมาจากปิดกั้นทรัพยากรโดยการจัดสรรของรัฐหรือชนชั้นนำทางสังคม เป็นความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม ปัญหาทางสิ่งแวดล้อมจึงเป็นปัญหาทางการเมืองเมื่อกลุ่มท้องถิ่นแทรกแซง ควบคุมทรัพยากรของกลุ่มหรือทรัพยากรส่วนรวมโดยอิทธิพลอำนาจการจัดการในการพัฒนาโดยตัวแทนรัฐ หรือบรรษัทเอกชน ความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับระบบนิเวศที่มีอยู่จึงเปลี่ยนมาสู่การอนุรักษ์หรือนโยบายการพัฒนาทรัพยากรโดยรัฐ (conservation or resource development policy) ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจึงเกี่ยวข้องกับสิทธิการใช้ทรัพยากร สิทธิการเข้าถึง (access rights) สิทธิในการเก็บหา (withdrawal rights) สิทธิการจัดการ (management rights) สิทธิในการกีดกัน (exclusion rights) และสิทธิในการถ่ายโอน (alienation rights) จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการอนุรักษ์และการพัฒนา ประการสุดท้าย เสนอประเด็นของงานวิจัยสิ่งแวดล้อมที่จำเป็นต้องศึกษาเพื่อเข้าใจและแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอันจะนำไปสู่ความยุติธรรมทางสังคมและความยั่งยืนทางนิเวศ
เอกสารอ้างอิง
เอกสารภาษาไทย
กนกศักดิ์ แก้วเทพ. (บก.). (2550). มรรควิธีเศรษฐศาสตร์การเมือง (1). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
จิรากรณ์ คชเสนี. (2556). นิเวศพัฒนาเพื่อความยั่งยืน. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ. (2543). นิเวศวิทยาการเมืองของการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ในประทศไทย: กรณีศึกษาโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการจัดการสิ่งแวดล้อม, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์. (2546). การมีส่วนร่วมของกลุ่มประชาคมในการพัฒนาการปกครองท้องถิ่นของสงขลา. วารสารมหาวิทยาลัยทักษิณ, 6 (2): 30-34.
ปรีชา เปี่ยมพงศ์สานต์. (2541). นิเวศเศรษฐศาสตร์และนิเวศวิทยาการเมือง. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อานันท์ กาญจนพันธุ์. (2543). “สิทธิในการเข้าถึงทรัพยากร : สถานภาพการศึกษาเกี่ยวกับวิธีคิด”. ใน พลวัตของชุมชนในการจัดการทรัพยากร: กระบวนทัศน์และนโยบาย. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
_______. (2544). วิธีคิดเชิงซ้อนในการวิจัยชุมชน พลวัตและศักยภาพของชุมชนในการพัฒนา. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
เอกสารภาษาต่างประเทศ
Bryant. R. L. (1992). Political ecology: An emerging research agenda in Third-World studies. Political Geography. 11 (1).
Ostrom, E. (1990). Governing the Commons: The Evolution of Institutions for Collective Action. New York: Cambridge University Press.
_______. (2000). Private and Common Property Rights. In Bouckaertand, B. & Geest, G. de. (eds.). Encyclopedia of Law and Economics Vol. II: Civil Lawand Economics. Cheltenham: Edward Elgar.
_______. (2008). Design principles of robust property-right: What have we learned?. In Ingram, K. G. & Hong, Y. H. (eds). Property right and land policies. Cambridge: Lincoln Institute of Land Policy.
Robbins, P. (2004). Political Ecology. Massachusetts. Blackwell Publishing.
_______. (2012). Political Ecology. (2nd ed.) New York: John Wiley & Sons.
Schlager, E. & Ostrom, E. (1992). The Formation of Property Right in Susan Hanna. In Folke, C. & Marler, K. G. (eds). Right to Nature: Ecology, Economic, Cultural and Political Principles of Institutions for the Environment. Washington D.C.: Island Press.