การปรับตัวของชุมชนเศรษฐกิจเขียว-น้ำเงิน ท่ามกลางสภาวะโลกร้อน : กรณีศึกษาชายฝั่งทะเลตะวันออก

ผู้แต่ง

  • Sitang Jaroenwong อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
  • Preecha Piampongsan อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  • Suthy Prasartset รองศาสตราจารย์ ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

คำสำคัญ:

เศรษฐกิจเขียว-น้ำเงิน, สภาวะโลกร้อน, ชายฝั่งทะเลตะวันออก

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาแนวสหวิทยาการแนววิพากษ์ มีวัตถุประสงค์ในการศึกษา คือ เพื่อศึกษาผลกระทบและการปรับตัวของชุมชนเศรษฐกิจเขียว-น้ำเงิน ในบริบทของภาคตะวันออกท่ามกลางกระแสโลกร้อน โดยมีชุมชนที่เป็นตัวแทนของการศึกษาในครั้งนี้ คือ ตำบลเกาะช้าง ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง, ตำบลเกาะกูด อำเภอเกาะกูด และตำบลแหลมกลัด อำเภอเมือง ผลการศึกษาพบว่า ผลกระทบของชุมชนจากสภาวะโลกร้อน ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาภูมิอากาศ การกัดเซาะชายฝั่ง ปะการังฟอกขาว ผลการศึกษาเรื่องการปรับตัวของชุมชนท่างกลางสภาวะโลกร้อนพบว่า ตำบลเกาะช้างมีการปรับตัวต่อสภาวะโลกร้อนผ่านกลไกของหน่วยงานภาครัฐ กรณีการปรับตัวของชุมชนตำบลเกาะช้างใต้ ได้แก่ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในลักษณะของการท่องเทียวแบบคาร์บอนต่ำ การรวมกลุ่มโดยใช้ชมรมการท่องเที่ยวบ้านสลักคอกในการให้ชุมชนร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม, ตำบลเกาะกูด การปรับตัวในมิติด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ การกำหนดข้อตกลงร่วมกันของกลุ่มผู้นำและชุมชนในการต่อต้านการเข้ามาตั้งธุรกิจที่เป็นลักษณะของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ การรวมกลุ่มรถรถรับส่งนักท่องเที่ยวระหว่างท่าเรือกับที่พักโรงแรม เพื่อสร้างและการกระจายรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชน ในมิติสังคมพบว่า ชุมชนยังคงมีการรวมกลุ่มกันในลักษณะของเครือญาติ ในการทำกิจกรรมสาธารณะร่วมกัน การปรับตัวในมิติด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การพยายามลดความเสี่ยงทางด้านสิ่งแวดล้อมและฟื้นฟูระบบนิเวศน์ภายในชุมชน เช่น การอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าชายเลน การจัดโครงการบ้านปลา ธนาคารปู การสร้างข้อบัญญัติของชุมในการกำหนดการสร้างสิ่งก่อสร้างที่พักโรงแรม ออกข้อกำหนดของเสียงของผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว กรณีตำบลแหลมกลัดพบว่า การปรับตัวด้านสิ่งแวดล้อมได้แก่ การฟื้นฟูทรัพยากรและการสร้างความมั่นคงทางอาหารโดยกำหนดเป็นกติการ่วมกัน การสร้างธรรมนูญการจัดการขยะในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ในมิติด้านเศรษฐกิจได้แก่ การการรวมกลุ่มเพื่อความร่วมมือกันทางด้านเศรษฐกิจ รวมถึงการพยามสร้างฐานเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวชุมชน

เอกสารอ้างอิง

เอกสารภาษาไทย

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองติดตามประเมินผล กลุ่มงานติดตาม ประเมินสถานการณ์. (ม.ป.ป.). สถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ. กรุงเทพฯ: กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.

ชัยยนต์ ประดิษฐศิลป์. (2542). เศรษฐศาสตร์การเมืองว่าด้วยการปฏิวัติครอบครัวไทย. กรุงเทพฯ: ศูนย์วิจัยและตำรามหาวิทยาลัยเกริก.

ปรีชา เปี่ยมพงศ์สานต์ และคณะ. (2556). เศรษฐกิจสีเขียวของชุมชนภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: กรณีศึกษาชุมชนในพื้นที่ภาคตะวันออก. กรุงเทพฯ: สำนักงานสนับสนุนการวิจัย.

มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด และกอบกุล รายะนาคร. (2553). นโยบายสาธารณะเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ. เชียงใหม่: สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.).

เอกสารภาษาต่างประเทศ

Jinjin, C. (2012). Green Economy and Beyond-Case Studies in Guangzhou, China. Retrieved May 15, 2016 from http://www.unrisd.org/80256B3C005BE6B5/search/49972284D3339595C12579960059D4C3?OpenDocument.

Khan, M. A. (2011). “Climate change, vulnerabilities and South Asia: issues, challenges and options.” in Hossain, M. and Selvanathan, E. Climate Change and Growth in Asia. Massachusetts: Edward Elgar.

Ostrom, E. (1990). Governing the commons: the evolution of institutions for collective action. Cambridge: Cambridge University Press.

Pomeroy, R. S. & Williams, M. (1994). Fisheries co-management and small-scale fisheries: a policy brief. Manila: ICLARM.

UNDP. (2012). Green Economy in A Blue world. Retrieved May 15, 2016 from https://www.undp.org/content/dam/undp/library/Environment%20and%20Energy/Water%20and%20Ocean%20Governance/Green_Economy_Blue_Full.pdf.

ข้อมูลจากการสัมภาษณ์

สมนึก หงส์วิเศษ. (2558, 27 สิงหาคม). รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมกลัด. สัมภาษณ์.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-06-28

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย