การเปลี่ยนผ่านจากเผด็จการสู่การเป็นประชาธิปไตย: ศึกษาเปรียบเทียบประเทศเกาหลีใต้ และเมียนมา
คำสำคัญ:
การเปลี่ยนผ่านไปเป็นประชาธิปไตย, เผด็จการ, เกาหลีใต้, เมียนมาบทคัดย่อ
การศึกษาเรื่องการเปลี่ยนผ่านจากเผด็จการสู่การเป็นประชาธิปไตย ศึกษาเปรียบเทียบประเทศเกาหลีใต้และเมียนมา มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากระบอบเผด็จการสู่การเป็นประชาธิปไตยของประเทศเกาหลีใต้และเมียนมา และ 2) เพื่อวิเคราะห์ความยั่งยืนของประชาธิปไตยในประเทศเมียนมา ใช้วิธีการศึกษาด้วยการสังเคราะห์ผ่านการทบทวนวรรณกรรมและงานวิจัยรวมทั้งเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีขอบเขตเวลาในการศึกษาถึงการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศเมียนมาใน ค.ศ. 2015 ผลการศึกษาพบว่า 1) สาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากระบอบเผด็จการสู่การเป็นประชาธิปไตยของประเทศเกาหลีใต้และเมียนมา สามารถสรุปได้ว่าการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจ อิทธิพลจากระบบระหว่างประเทศและภายนอก รวมทั้งบทบาทของตัวแสดงทางการเมือง เป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การเปลี่ยนผ่านเป็นประชาธิปไตยได้ ในกรณีของเกาหลีใต้เมื่อเปลี่ยนผ่านแล้ว ก็สามารถสร้างประชาธิปไตยให้ยั่งยืนและมั่นคงได้ทั้งในระดับพฤติกรรมและทัศนคติ เนื่องจาก ตัวแสดงทางการเมืองของเกาหลีใต้ในทุกระดับต่างก็ให้ความเชื่อมั่นในความชอบธรรมของประชาธิปไตย และยึดถือเป็นรูปแบบในการปกครอง และ 2) การสร้างความยั่งยืนของประชาธิปไตยในประเทศเมียนมาไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะกลุ่มชนชั้นนำและกองทัพยังคงยึดมั่นในระบอบอำนาจนิยม และไม่ดำเนินไปตามวิถีทางของประชาธิปไตยที่แท้จริง แม้ว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งใน ค.ศ. 2015 แต่รัฐบาลยังคงปกครองแบบอำนาจนิยมเสรีที่เอื้อกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่จากต่างประเทศและชนชั้นนำในรัฐชาติพันธุ์ เท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
รายการอ้างอิง
ภาษาไทย
ไชยวัฒน์ ค้ำชู และนิธิ เนื่องจำนงค์. (2559). การเมืองเปรียบเทียบ ทฤษฎี แนวคิด และกรณีศึกษา.
กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธีระ นุชเปี่ยม. (2558). สารานุกรมประวัติศาสตร์ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน. กรุงเทพฯ: สำนักงานราช
บัณฑิตยสภา.
ณัฐพล ตันตระกูลทรัพย์. (2556). ทุนนิยมกับการพัฒนาประชาธิปไตยในเมียนมา. เอกสารประกอบการ
สัมมนาวิชาการ สถาบันเอเชียศึกษา ปี 2556 “การเมืองและความมั่นคงใหม่ในเอเชีย” วัน อังคารที่ 17 ธันวาคม 2556. ห้องประชุมจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ ชั้น 4 อาคารประชาธิปก-รำไพพรรณี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ดุลยภาค ปรีชารัชช. (2554). จับกระแส ยุทธศาสตร์การเมืองเมียนมา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์.
ผู้จัดการออนไลน์. (2558). ผลเลือกตั้งเมียนมาล่าสุด พรรค “ซูจี” กวาด 77% รวม 880 ที่นั่งในสภา. วันที่ ค้นข้อมูล 15 กันยายน 2566, เข้าถึงได้จาก https://mgronline.com/indochina/detail/9580000127107
พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์. (2558). ประชาธิปไตยไม่ใช่เป๊ปซี่ ว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านจากเผด็จการจาก
มุมมองของรัฐศาสตร์. วันที่ค้นข้อมูล 15 กันยายน 2566, เข้าถึงได้จาก
http://www.ftawatch.org/node/46518
วิเชียร อินทะสี. (2556). พลวัตความเป็นประชาธิปไตยในเกาหลีใต้ : จากอำนาจนิยมสู่ประชาธิปไตยที่ มั่นคง. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุนทร วาที และปรัชญ์ ไพรัชกร. (2522). ล้มเผด็จการ ปักจุงฮี. กรุงเทพฯ: โคมทอง.
BBC News ไทย. (2563). เลือกตั้งเมียนมา 2020 : กับข้อครหาไม่เป็นประชาธิปไตย.
วันที่ค้นข้อมูล 1 กันยายน 2566, เข้าถึงได้จาก https://www.bbc.com/thai/international- 54820800
ภาษาอังกฤษ
Dickovick, J. T., & Eastwood, J. (2016). Comparative Politics: Integrating Theories, Methods,
and Cases (2nd edition). USA: Oxford University Press.
Inglehart, R., & Welzel, C. (2005). Modernization, Cultural Change, and Democracy: The Human Development Sequence. New York: Cambridge University Press.
Huntington, S. P. (1991). The Third Wave: Democratization in the Late Twentieth Century.
London: University of Oklahoma Press.