การวัดประสิทธิภาพเชิงเทคนิคของการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ที่ได้รับการรับรอง
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
การศึกษานี้นำเสนอวิธีการวัดประสิทธิภาพเชิงเทคนิคของการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ที่ได้รับการรับรอง ด้วยวิธี data envelopment analysis (DEA) และ stochastic frontier analysis (SFA) โดยใช้ข้อมูลตัวอย่าง 150 ฟาร์ม ในจังหวัดยโสธร รอบปีการเพาะปลูก พ.ศ. 2548/49 ผลการศึกษาพบว่า การวัดประสิทธิภาพด้วยวิธี DEA แบบผลตอบแทนต่อขนาดคงที่มีค่าร้อยละ 41 และแบบผลตอบแทนต่อขนาดผันแปรมีค่าร้อยละ 54 ส่วนวิธี SFA มีค่าร้อยละ 67 และพบว่า เมล็ดพันธุ์ แรงงาน เครื่องจักร และปุ๋ย เป็นปัจจัยการผลิตส่วนเกิน ขนาดฟาร์มที่เหมาะสมควรเป็น 21 ไร่ ซึ่งจะให้ผลผลิตประมาณ 324 กิโลกรัมต่อไร่ ผลการวัดค่าประสิทธิภาพจากวิธี SFA กับ DEA แบบผลตอบแทนต่อขนาดคงที่มีความคงเส้นคงวาดีกว่าผลจากการวัดประสิทธิภาพจากวิธี SFA กับ DEA แบบผลตอบแทนต่อขนาดผันแปร
คำสำคัญ : ประสิทธิภาพเชิงเทคนิค, ดีอีเอ, เอสเอฟเอ, ข้าวหอมมะลิอินทรีย์
Abstract
This study measured technical efficiency on certified organic Jasmine rice farms with dataenvelopment analysis (DEA) and stochastic frontier analysis (SFA). Data was obtained from 150farms in Yasothon province in the crop year 2005/06. The results show that technical efficiency fromDEA were 41% and 54% for constant returns to scale (CRS) and variable returns to scale (VRS),respectively, while the result from SFA was 67%. The study also found excessive use of seed, labor,machinery, and fertilizer. The optimal farm size should be 21 rai (3.36 ha) which would yield 324kg/rai (2.03 tons/ha). The efficiency results from SFA and DEA (CRS) were more consistent thanthose from SFA and DEA (VRS).
Keywords : technical efficiency, data envelopment analysis, stochastic frontier analysis, organicJasmine rice
Article Details
The paper is published under CC BY-NC-ND, in which the article is freely downloaded and shared in its original form non-commercially and its citation details are identified.