กลยุทธ์การจัดการเครือข่ายความร่วมมือในการบริหารจัดการศึกษา ของสถานศึกษาขนาดเล็กในเขตพื้นที่พิเศษภาคเหนือตอนบน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากลยุทธ์และศึกษาผลการดำเนินงานตามกลยุทธ์การจัดการเครือข่ายความร่วมมือในการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาขนาดเล็กในเขตพื้นที่พิเศษภาคเหนือตอนบน
รวบรวมข้อมูลในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดน่านแบ่งการวิจัยเป็น 2 ระยะ คือ 1) การพัฒนากลยุทธ์ การจัดการเครือข่ายความร่วมมือในการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาขนาดเล็กในพื้นที่พิเศษภาคเหนือตอนบน โดยจัดทำร่างกลยุทธ์ด้วยวิธีการประชุมเชิงปฏิบัติการวางแผนแบบมีส่วนร่วม(A-I-C: Appreciation Influence Control)ของผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน18 คน และใช้กระบวนการสร้างภาพอนาคต (Scenario Planning) ในการกำหนดกลยุทธ์ตรวจสอบคุณภาพของกลยุทธ์โดยใช้แบบสอบถามผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน15 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2) การนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติโดยทดลองใช้กับโรงเรียนขนาดเล็ก จำนวน 5 โรงเรียน ประเมินผลการดำเนินงานตามกลยุทธ์ด้วยผู้ทรงคุณวุฒิคนกลาง(Third Party) จำนวน 5 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการประชุมหาข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์ตามเกณฑ์การประเมินในภาพรวม (Holistic Rubric) 5 ระดับ และประเมินความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อกลยุทธ์ จำนวน 44 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่ากลยุทธ์การจัดการเครือข่ายความร่วมมือในการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาขนาดเล็กในเขตพื้นที่พิเศษภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย4 กลยุทธ์ 19 มาตรการ สำหรับการศึกษาผลการดำเนินงานตามกลยุทธ์พบว่าภาพรวมมีผลการดำเนินงานผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดีมากขึ้นไป ยกเว้นมาตรการที่ 2.4 ที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับปรับปรุง ส่วนการประเมินความพึงพอใจพบว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความพึงพอใจต่อกลยุทธ์ในระดับมาก
Article Details
1. ทัศนะและข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารนวัตกรรมสังคมและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นทัศนะของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยกับทัศนะเหล่านั้นและไม่ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
2. ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละบทเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงฝ่ายเดียว
3. ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นได้รับการสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย การตีพิมพ์ซ้ำต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นลายลักษณ์อักษร