การสำรวจความรู้ ทักษะ และเจตคติ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการนวัตกรรมทางการศึกษา ที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนและการทำวิจัยของครู
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความรู้ ทักษะ และเจตคติ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการนวัตกรรมทางการศึกษา เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนและการทำวิจัยของครู ผู้วิจัยออกแบบการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณด้วยแบบวัดกับครูจากโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้ง 3 สังกัด ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จำนวน 543 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแบบวัดความรู้ ทักษะ และเจตคติ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการนวัตกรรมทางการศึกษา มีค่าความตรงเชิงเนื้อหา อยู่ระหว่าง 0.60 - 1.00 ผลการวิจัย พบว่า องค์ประกอบ 1 ความรู้เกี่ยวกับการจัดการนวัตกรรมทางการศึกษา ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ การใช้นวัตกรรม (Mean=3.69) รองลงมาคือ การเลือกนวัตกรรม (Mean=3.68) และการประเมินผลนวัตกรรม (Mean=3.51) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การเผยแพร่นวัตกรรม (Mean=3.27) องค์ประกอบ 2 ทักษะเกี่ยวกับการจัดการนวัตกรรมทางการศึกษา ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ การใช้นวัตกรรม (Mean=3.56) รองลงมาคือ การเลือกนวัตกรรม (Mean=3.53) และการประเมินผลนวัตกรรม (Mean=3.42) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การเผยแพร่นวัตกรรม (Mean=3.21) องค์ประกอบ 3 เจตคติเกี่ยวกับการจัดการนวัตกรรมทางการศึกษา ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ เจตคติต่อตนเอง (Mean=4.08) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ เจตคติต่อผู้อื่น (Mean=3.93)
Article Details
1. ทัศนะและข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารนวัตกรรมสังคมและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นทัศนะของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยกับทัศนะเหล่านั้นและไม่ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
2. ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละบทเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงฝ่ายเดียว
3. ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นได้รับการสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย การตีพิมพ์ซ้ำต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นลายลักษณ์อักษร