ต้นแบบแอปพลิเคชันตรวจสอบการเข้าชั้นเรียนโดยใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาต้นแบบแอปพลิเคชันตรวจสอบการเข้าชั้นเรียนโดยเทคโนโลยีจดจำใบหน้า จากการศึกษากระบวนการเข้าชั้นเรียนของผู้เรียน พบว่าปัญหาการเข้าชั้นเรียนไม่ตรงต่อเวลา ส่งผลให้นักเรียนไม่มีสิทธิสอบในรายวิชานั้น ๆ และอาจเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต ควรหาแนวทางแก้ไข อีกทั้งปัญหาเกี่ยวกับการตรวจสอบการเข้าเรียนนั้น ผู้สอนไม่สามารถตรวจสอบรายชื่อในเวลาที่เริ่มการเรียนการสอนได้ครบถ้วน ต้นแบบแอปพลิเคชันตรวจสอบการเข้าชั้นเรียนโดยใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า ใช้ภาษาจาวาสคริปต์ และภาษาไพธอนในการพัฒนาต้นแอปพลิเคชัน ซึ่งช่วยให้ผู้สอน และผู้เรียนสามารถทำกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลการวิจัยจึงสรุปได้ดังนี้ 1) ได้ต้นแบบแอปพลิเคชันตรวจสอบการเข้าชั้นเรียนโดยเทคโนโลยีจดจำใบหน้า ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็วขึ้น และได้ข้อมูล ลักษณะ การเข้าชั้นเรียน การติดตามพฤติกรรมของผู้เรียนในการเข้าชั้นเรียนดีขึ้น หลังจากปรับเปลี่ยนรูปแบบการตรวจสอบการเข้าชั้นเรียน 2) ผลการประเมินของผู้เชี่ยวชาญต่อต้นแบบแอปพลิเคชันตรวจสอบการเข้าชั้นเรียนโดยใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าในภาพรวมได้ค่าความสอดคล้อง เท่ากับ 0.88 แสดงว่าต้นแบบทำงานได้เหมาะสมสอดคล้องกัน เหมาะกับผู้ที่ใช้ทุกกลุ่ม 3) ผลการประเมินความพึงพอใจพึงพอใจต่อต้นแบบแอปพลิเคชันตรวจสอบการเข้าชั้นเรียนโดยใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า จากผู้ใช้จำนวน 30 ท่าน ในภาพรวมได้ค่าเฉลี่ยร้อยละเท่ากับ 4.18 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.67 ซึ่งแสดงว่ามีความพอใจในระดับดีมาก
Article Details
1. ทัศนะและข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารนวัตกรรมสังคมและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นทัศนะของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยกับทัศนะเหล่านั้นและไม่ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
2. ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละบทเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงฝ่ายเดียว
3. ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นได้รับการสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย การตีพิมพ์ซ้ำต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
Banlue, S. & Inthasaeng, K. (2020). The efficiency of a class attendance monitoring system with face recognition by using LBP technique. Journal of Roi Et Rajabhat University. 14(1), 147-158. [In Thai]
Bootmas, C. (2017). Data Logging of Building Access using Face Recognition: A case study of Ammat Charoen Provincial court. (Master’s independent studies, Master of Science in Information Technology, Ubon Ratchathani University). [In Thai]
Chomphoonut, W. & Verapan, P. (2017). The Development of Student Attendance Behavior Information System for Khongphaiwitaya School. In Proceedings of the 4th National Kamphaeng Phet Rajabhat University Conference, Kamphaeng Phet Rajabhat University, December 22, 2017. (pp. 284-292). Kamphaeng Phet: Kamphaeng Phet Rajabhat University. [In Thai]
Crouzet, M., Kirchner, H. & Thorpe, J. S. (2010). Fast saccades toward faces: Face detection in just 100ms. Journal of Vision. 10(4), 1-17. Retrieved March 4, 2020, from https://jov.arvojournals.org/article.aspx?articleid=2121090
Dullayachai, K. Changkamanon, A. & Khemapech, I. (2017). Class Attendance Checking System using a Smart Device. FEU Academic Review. 11(Special issue), 125-133. [In Thai]
Saparkhojayav, N., Shakhov, E. & Mailybayev, Y. (2016). Mobile Attendance Checking System on Android Platform for Kazakhstani University. Journal of Physics: Conference Series. 710, 1-9. Retrieved May 21, 2020, from https://iopscience.iop.org/article/10.1088/1742-6596/710/1/012013/pdf.
Siricharoen, W., Sukwilai, A. & Kheamwong, V. (2014). The Database Prototyping Development of Research Department, University of the Thai Chamber of Commerce. Sripatum Review of Science and Technology. 6(1), 32-45. [In Thai]
