การพัฒนารูปแบบพลิตภัณฑ์และรูปแบบการตลาดผ้าทอไทลื้อเพื่อความยั่งยืน ของชุมชนบ้านทุ่งมอก อ.เชียงคำ จ.พะเยา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์และรูปแบบการตลาดผ้าทอไทลื้อเพื่อความยั่งยืนของชุมชนบ้านทุ่งมอก อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบริบทของการดำเนินงานวิสาหกิจชุมชนการทำผ้าทอไทลื้อของชุมชนบ้านทุ่งมอก 2) ศึกษาหาแนวทางหรือวิธีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์และรูปแบบการตลาดของกลุ่มทอผ้าไทลื้อบ้านทุ่งมอก กลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ สมาชิกกลุ่มทอผ้าไทลื้อบ้านทุ่งมอก ตำบลเชียงบาน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา จำนวน 44 คน โดยวิธีดำเนินการวิจัยเริ่มจากศึกษาบริบทของการดำเนินงานวิสาหกิจชุมชนการทำผ้าทอไทลื้อของชุมชนบ้านทุ่งมอก จากนั้นมีการระดมความคิดของสมาชิกกลุ่มทอผ้าเพื่อหาปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นทำการอบรมความรู้ด้านการตลาดและการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์โดยการใช้รูปแบบการอบรมแบบ CEFE (Competency based Economies through Formation of Enterprises) เมื่อจบการอบรมให้สมาชิกกลุ่มทอผ้าทำการวางแผนการตลาด แล้วปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ และทำการประเมินผลการดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มทอผ้าไทลื้อบ้านทุ่งมอกมีการทอผ้าไทลื้อ โดยอาศัยภูมิปัญญาที่เรียนรู้สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษประมาณ 100-150 ปีมาแล้ว ในช่วงแรกของการก่อตั้งกลุ่มการทอผ้าเป็นเพียงอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตรเท่านั้นแต่ปัจจุบันทางกลุ่มได้ยืดเป็นอาชีพหลักในการเลี้ยงชีพ ปัญหาด้านการตลาดในอดีตคือ ไม่มีการทำการส่งเสริมการตลาดและแสวงหาลูกค้ารายใหม่ๆ ขาดการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ หลังจากที่ทางกลุ่มทอผ้าได้มีการอบรมความรู้ด้านการตลาดและการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ ทางกลุ่มทอผ้าได้มีการพัฒนารูปแบบของกระเป๋าไทลื้อขึ้นใหม่ และมีการวางแผนการตลาดออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเดือนธันวาคม 2550 ถึงเดือนพฤษภาคม 2551 และช่วงเดือนกรกฎาคม 2551 ถึง เดือนกันยายน 2551 ผลจากการดำเนินการตามแผนที่วางไว้ส่งผลให้ ยอดขายในปี 2551 เมื่อเทียบกับปี 2550 เพิ่มขึ้นทุกเดือน (พิจารณาเฉพาะเดือนมกราคม ถึงเดือนสิงหาคม) โดยเดือนมิถุนายน 2551 มีอัตราการเติบโตของยอดขายสูงสุดเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2550 เติบโตถึง 486.10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้อาจเป็นผลสืบเนื่องจากการวางแผนการตลาดในเดือนธันวาคม 2550 ถึงเดือนพฤษภาคม 2551 ในขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ 2551 เป็นเดือนที่มีอัตราการเติบโตต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2550 เติบโตเพียง 0.04 เปอร์เซ็นต์
Article Details
1. ทัศนะและข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารนวัตกรรมสังคมและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นทัศนะของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยกับทัศนะเหล่านั้นและไม่ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
2. ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละบทเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงฝ่ายเดียว
3. ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นได้รับการสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย การตีพิมพ์ซ้ำต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นลายลักษณ์อักษร