การพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูด โดยใช้สื่อดิจิทัลสำหรับเด็กปฐมวัย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อพัฒนาแผนการจัดประสบการณ์ความสามารถด้านการฟังและการพูดโดยใช้สื่อดิจิทัลสำหรับเด็กปฐมวัย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัย ระหว่างก่อนกับหลังการจัดประสบการณ์ โดยใช้สื่อดิจิทัล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ เด็กปฐมวัยที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบ้านสันติคีรี จังหวัดเชียงราย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงราย เขต 3 จำนวน 1 ห้องเรียน รวมทั้งหมด 29 คน โดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการใช้ คือ แผนการจัดประสบการณ์และแบบประเมินความสามารถด้านการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัย นำไปวิเคราะห์หาค่าประสิทธิภาพเครื่องมือ โดยใช้แผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูดโดยใช้สื่อดิจิทัลสำหรับเด็กปฐมวัย สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ สูตร E1/E2 และเปรียบเทียบโดยใช้ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ t - test (Dependent Sample) ผลการวิจัยพบว่า 1) การจัดประสบการณ์ใช้สื่อดิจิทัลเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูดสำหรับเด็กปฐมวัย มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 86.72/90.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพมาตรฐานที่กำหนด 80/80 ที่ตั้งไว้ 2) ความสามารถด้านการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัย มีคะแนนหลังการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. ทัศนะและข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารนวัตกรรมสังคมและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นทัศนะของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยกับทัศนะเหล่านั้นและไม่ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
2. ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละบทเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงฝ่ายเดียว
3. ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นได้รับการสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย การตีพิมพ์ซ้ำต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กิ่งกาญจน์ สุพรศิริสิน, สมสิรี มนัส, รัตนา เจงพิบูลพงศ์, และ ภัทรพร จันทมุณี. (2563). ประสิทธิภาพของสื่อดิจิทัลเพื่อการเล่าเรื่องผ่านภาพที่มีต่อแรงจูงใจของผู้เรียน. วารสารวิชาการบัณฑิตวิทยาลัยสวนดุสิต, 16(1), 81-93.
กุลยา ตันติผลาชีวะ. (2551). การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์สาราเด็ก.
จันทิมา เคลือบสำราญ, จุฑาทิพย์ แสนวัฒน์, ก้องเกียรติ ไกรยสวน, และ อภิวัฒน์ กิ่งแสง. (2564). การพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ผ่านสื่อมัลติมีเดีย ระดับปฐมวัย. วารสารวิชาการมหวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น, 18(1), 119-124.
ชวนพิศ จะรา. (2556). การพัฒนาการเรียนด้วยเทคโนโลยีผสานความจริง (AR) ร่วมกับหนังสือนิทานสองภาษาโดยใช้กระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมความสามารถทางภาษาด้านการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัย [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี].
ณัฐณิชา มณีพฤกษ์. (2565). การพัฒนาชุดกิจกรรมศิลปะที่บูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะสำหรับเด็กปฐมวัย [วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตร์มหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย].
ดรุณวรรณ แก้วหนูนวล. (2557). การพัฒนาสื่อประสมเพื่อฝึกการพูดสำหรับเด็กออทิสติกโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์].
ธีระยุทธ์ หมันหลี, ณัฐพล รำไพ, และ กอบกุล สรรพกิจจำนง. (2561). การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การประเมินพัฒนาการเด็กตามคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยสำหรับนิสิตแพทย์. https://edtech.edu.ku.ac.th/ผลงานนิสิต/2564/บทความวิจัย_การพัฒนาบทเรียนออนไลน์%20เรื่อง.
นัดทพร สีสถาน และ ศรีกัญภัสสร์ รังษีบวรกุล. (2557). ผลการพัฒนาทักษะการฟังและการพูด ภาษาไทยของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการเล่านิทาน. วารสารสังคมศาสตร์วิชาการ, 7(3), 7-17.
ปรัชกร พรหมมา และ ไพฑูรย์ ศรีฟ้า. (2560). การพัฒนาแอปพลิเคชันเกมสามมิติประเภทสวม บทบาทเพื่อพัฒนาทักษะการ เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษในระดับต่ำ. วารสารวิชาการครุศาสตร์อุตสาหกรรมพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 8(2), 221-229.
ปุณณรัตน์ พิงคานนท์. (2565). รูปแบบการใช้สื่อดิจิทัลกับการเรียนรู้ทางสังคม และการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลของเด็กปฐมวัย. วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์, 1(2), 156-169.
พริมม์รฎา ปาระมี. (2565). การใช้การสอนภาษาแบบมุ่งปฏิบัติงานร่วมกับการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อพัฒนาความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษและความเชื่อมั่นในตนเองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่].
พิศณุ ชัยจิตวณิชกุล. (2561). การออกแบบและพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาโดยใช้โปรแกรม Construct 2. อุดรธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
ภัทรสุดา ยะบุญวัน. (2564). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการเรียนการสอนด้วยสื่ออินโฟกราฟิกที่ส่งผลต่อการรู้ดิจิทัล. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร].
รอฮันนี เจะเลาะ. (2561). การพัฒนาทักษะการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัย โดยการจัดกิจกรรม เสริมประสบการณ์ที่ใช้นิทานประกอบภาพ. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, 13(1), 41-46.
โรงเรียนบ้านสันติคีรี. (2563). รายงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาโรงเรียนบ้านสันติคีรี. โรงเรียนบ้านสันติคีรี.
สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน. (2560). การบริหารจัดการสื่อดิจิทัลเพื่อเด็กปฐมวัย [วิทยานิพนธปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร].
สุทธิลักษณ์ กันธิพันธ์. (2566). การพัฒนาสื่อวีดิทัศน์คำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนบ้านสันโค้ง (เชียงรายจรูญราษฎร์). วารสารการวิจัยการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 3(1), 172-187.
Chomsky, N. (1957). Syntactic Structure. The Hague: Mouton. Cowie, A. P.
Dewey, J. (1963). Experience and Education. New York: Macmillan.
Manajuti, P. (2007). Thailand language for children. M.p.t.: Publisher gleaming friends.
McNeil, D. (1970). Handbook of Educational Supervision: A Guide for the Practitioner. Boston: Allyn and Bacon Inc.
Moerk, E. L. (1992). A study of the Ability of Principals to Identify the Development Level of Teachers as a Prerequisite for Implementing Developmental Supervision. Dissertation Abstract International. 10(1)[27], 33–58.
Pinker, S. (1994). Theory and Practice of Supervision. New York: Dodd & Mead Company.
Skinner, B. F. (1957). Verbal hehavior. New York: Appleton-Century-Crofts.