ระบำซอหลังสมัยพระราชชายาเจ้าดารารัศมี: การวิเคราะห์องค์ประกอบทางวรรณกรรมและวรรณศิลป์
Main Article Content
บทคัดย่อ
ระบำซอสมโภชช้างเผือก ประดิษฐ์ขึ้นโดยพระราชชายาเจ้าดารารัศมีเพื่อใช้เป็นมหรสพสมโภชพระเศวตคชเดชน์ดิลกฯ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ประพาสมณฑลพายัพในใน พ.ศ. 2469 หลังจากนั้นได้มีผู้ประดิษฐ์การแสดงในลักษณะเดียวกับระบำซอสมโภชช้างเผือกขึ้นอีกหลายชุด บทความนี้นำเสนอผลการวิเคราะห์ตัวบทนาฏกรรมระบำซอหลังสมัยพระราชชายาเจ้าดารารัศมีในแง่ขององค์ประกอบทางวรรณกรรมและลักษณะวรรณศิลป์ โดยวิเคราะห์จากระบำซอจำนวน 8 ชุด ร่วมกับระบำซอสมโภชช้างเผือก สรุปผลการศึกษาดังนี้ 1) ด้านโครงสร้าง ปรากฏโครงสร้าง 4 ลักษณะ ได้แก่ แบบระบำซอสมโภชช้างเผือก แบบระบำซอสำนวนเจ้าบัวทิพย์ แบบใช้ทำนองโยนกและซอยิ้น และแบบใช้ซอยิ้นอย่างเดียว 2) ด้านเนื้อหา พบเนื้อความใน 3 ลักษณะ ได้แก่ การเทิดทูนเกียรติบุคคล การเทิดทูนเกียรติประวัติองค์กร และการเฉลิมฉลองเนื่องในกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา 3) ด้านฉันทลักษณ์ พบว่าฉันทลักษณ์ทั้ง 3 แบบมีลักษณะโดยภาพรวมสอดคล้องกับระบำซอสมโภชช้างเผือกแต่ก็มีรายละเอียดที่แตกต่าง ได้แก่ จำนวนคำ จำนวนวรรค การส่งสัมผัส และเสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรค 4) การสืบทอดสำนวน พบการสืบทอดสำนวนภาษาโดยการใช้คำขึ้นต้นบท และการคงสำนวนและปรับใช้สำนวนเดิม 5) ด้านวรรณศิลป์ พบวรรณศิลป์ทั้ง 3 ด้าน คือ การสรรเสียง การสรรคำ และการใช้ภาพพจน์ จากผลการศึกษาทำให้เห็นถึงการสืบทอด คลี่คลาย ลักษณะของวรรณกรรมระบำซอซึ่งมีบทบาทอยู่ในวงการวรรณกรรมและนาฏกรรมล้านนา อันเป็นการต่อยอด ภูมิปัญญาของพระราชชายาเจ้าดารารัศมีที่ตอบสนองต่อจุดประสงค์ในบริบทแวดล้อมของปัจจุบันสมัยโดยยังคงลักษณะเด่นของวรรณกรรมล้านนาที่แสดงออกถึงการเคารพภูมิปัญญาของบูรพชน การต่อยอดด้วยความประณีต งดงามด้วยภูมิภาษาอันเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น สอดคล้องกับพระประสงค์ของผู้ทรงนิพนธ์ระบำซอต้นฉบับที่จะดำรงรักษา ต่อยอด และเผยแพร่เอกลักษณ์ของท้องถิ่นล้านนาให้เป็นที่แพร่หลายอย่างยั่งยืน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. ทัศนะและข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารนวัตกรรมสังคมและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นทัศนะของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยกับทัศนะเหล่านั้นและไม่ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
2. ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละบทเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงฝ่ายเดียว
3. ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นได้รับการสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย การตีพิมพ์ซ้ำต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กมล มโนชญากร. (2474). จดหมายเหตุ เสด็จพระราชดำเนิรเลียบมณฑลฝ่ายเหนือ พระพุทธศักราช 2469. โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร.
ฉัตรยุพา สวัสดิพงษ์. (2559). วรรณกรรมล้านนาคัดสรร : วรรณกรรมพรรณนาอารมณ์. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
ณัฐพงษ์ ปัญจบุรี. (2562). วรรณกรรมในสมัยพระราชชายาเจ้าดารารัศมี. ลานนาการพิมพ์.
ณัฐพงษ์ ปัญจบุรี. (2562). การศึกษาวิเคราะห์คำซ้อนในค่าวซอเรื่องพระอภัยมณีและศรีสุวัณณ์. [รายงานการวิจัย, กองทุนนหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่].
ธเนศ เวศร์ภาดา. (2549). หอมโลกวรรณศิลป์ : การสร้างรสสุนทรีย์แห่งวรรณคดีไทย. ปาเจรา.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2540). สารานุกรมศัพท์ดนตรีไทย ภาคคีตะ - ดุริยางค์. ราชบัณฑิตยสถาน.
วินัย พงศ์ศรีเพียร. (2562). รุธิราชรำพัน (โคลงนิราศหริภุญชัยและจารึกวัดพระยืน มรดกความทรงจำแห่งอภินวบุรี-ศรีหริภุญชัย). มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา.
ศิวาพร วัฒนรัตน์. (2554). วรรณกรรมนิทานคำโคลงของล้านนา : ลักษณะเด่น ภูมิปัญญา และคุณค่า. ธนุชพริ้นติ้ง.
สงกรานต์ สมจันทร์. (2563). ประวัติดนตรีล้านนา. ภาควิชาดนตรีและศิลปะการแสดง คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
สาโรจน์ บัวพันธุ์งาม. (2558). เอกสารประกอบการสอน กระบวนวิชา (014211) ภาษาบาลีและสันสกฤตในภาษาไทย. คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สายสวรรค์ ขยันยิ่ง. (2543). พระราชชายาเจ้าดารารัศมีกับนาฏศิลป์ล้านนา. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย].
สุจิตรา จงสถิตวัฒนา. (2549). เจิมจันทน์กังสดาล : ภาษาวรรณศิลป์ในวรรณคดีไทย. โครงการเผยแพร่ผลงานวิชาการ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
หทัยวรรณ ไชยะกุล. (2556). วรรณกรรมล้านนาร่วมสมัย (พ.ศ. 2413-2550) : การสืบทอดภูมิปัญญาและการสร้างสรรค์. นพบุรีการพิมพ์.
อนุมานราชธน, พระยา. (2522). นิรุกติศาสตร์. มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป.
อุดม รุ่งเรืองศรี. (2549) คร่าวซอเรื่องเจ้าสุทนนางมโนห์รา. โครงการจัดทำเอกสารข้อมูลเพื่อการอนุรักษ์ต้นฉบับและเป็นฐานในการสร้างนักวิชาการด้านล้านนารุ่นใหม่.