การจัดประสบการณ์แบบโครงการโดยผู้ปกครองมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย

Main Article Content

สุทัตตา ศรีสุวรรณ
ชไมมน ศรีสุรักษ์
ศิริมาศ โกศัลย์พิพัฒน์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาคู่มือการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการ โดยผู้ปกครองมีส่วนร่วมส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยให้มีประสิทธิภาพ และ 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เด็กปฐมวัย จำนวน 21 คน อายุระหว่าง 4 – 5  ปี กำลังศึกษาชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน โดยได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 21 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ คู่มือการจัดประสบการณ์แบบโครงการโดยผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย และ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการจัดประสบการณ์แบบโครงการโดยผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการพัฒนาคู่มือการจัดประสบการณ์แบบโครงการโดยผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย เท่ากับ 85.53/96.03 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ 80/80 และ 2) ผลการเปรียบเทียบทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการจัดประสบการณ์แบบโครงการพบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2563). นโยบายการจัดการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย. กระทรวงศึกษาธิการ.

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2562). คู่มือการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการโดยผู้ปกครองมีส่วนร่วม. กรุงเทพฯ: กรมส่งเสริม

การปกครองท้องถิ่น.

จิรัฐิกานต์ ช่วงชัยชนะ และ เมธาวี โชติชัยพงศ์. (2568). การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ ของนักเรียนโรงเรียนนิคมสร้างตนเอง ในจังหวัดอุบลราชธานี. วารสารมหาจุฬาคชสาร, 16(1), 157-171. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/gajasara/article/view/274523

จุฬินฑิพา นพคุณ. (2563). การสอนแบบโครงการสำหรับเด็กปฐมวัย: กรณีศึกษาโรงเรียนหนานไฮ เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 31(1), 1–15. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/edubuu/article/view/244156

ฐิติรัตน์ รอดทอง, ชลธิชา แก้วมี, พรณิชา ชาตะพันธุ์, และ เพชราวลัย ถิระวณัฐพงศ์. (2567). ผลการจัดประสบการณ์ดดยใช้ปรากฎการณ์เป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ร่มพฤกษ์, 42(2), 34-52. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/romphruekj/article/view/267874

ตวงพร อินทร์จักร, นนทชนนปภพ ปาลินทร, ศันสนีย์ บุญเฉลี่ยว, และ ปิยาณี สมบูรทรัพย์. (2564). ผลการจัดประสบการณ์แบบโครงการที่มีต่อความคิดริเริ่มของเด็กปฐมวัย โรงเรียนบ้านนาคำน้อย 2 อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 6(2), 102-112. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/mcjou/article/view/248618/

นิติยาพร นันทอง และรุ่งลาวัลย์ ละอำคา. (2567). การจัดกิจกรรมการสร้างความร่วมมือของผู้ปกครองโดยใช้สารนิทัศน์ เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตของเด็กปฐมวัย. วารสารวิชาการและวิจัย มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, 14(1), 42–55. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/neuarj/article/view/268171

บุณยณัฐ บัวราช, บิลกิส สุนทรพงษ์, และ เดชกุล มัทวานุกูล. (2567). Unplugged Coding: การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย. วารสารวิชาการสถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ, 10(2), 410-421. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/svittj/article/view/274561/186433

ปิยาพัชร สาวิสัย, ปิยะนันท์ หิรัณย์ชโลทร และ ชลาธิป สมาหิโต. (2568). ผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการร่วมกับผังกราฟิกที่มีต่อทักษะการตัดสินใจอย่างรับผิดชอบในเด็กปฐมวัย. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 5(1), 1–18. https://doi.org/10.60027/iarj.2025.279844

ภาวิดา บุญช่วย, อรพรรณ บุตรกตัญญู และ ชลาธิป สมาหิโต. (2565). การพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยโดยจัดกิจกรรมการเล่นวัสดุสร้างสรรค์ประกอบวรรณกรรม. วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารศึกษา, 5(15), 178-189. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/etcedumsujournal/article/view/256626/173535

พรรณทิพย์ ศิริวรรณบุศย์. (2563). จิตวิทยาพัฒนาการ (พิมพ์ครั้งที่ 2). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. https://search-library.spu.ac.th/bib/196083?utm_source=chatgpt.com

สุนันทา ซาอุรัมย์ และ โสภณ เพ็ชรพวง. (2566). การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองที่ส่งผลต่อการจัดการศึกษาปฐมวัย โรงเรียนเอกชน จังหวัดนครราชสีมา เครือข่ายที่ 3. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 10(7), 189-199. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/270741

สมสุดา มัธยมจันทร์. (2563). การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการสำหรับเด็กปฐมวัย. วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์ ศรีนครินทรวิโรฒ, 21(2), 186–200. https://ejournals.swu.ac.th/index.php/jedu/article/view/13095

สมฤทัย กำจัดภัย, นนทชนนปภพ ปาลินทร, และ วิชาญ ไทยแท้. (2565). ผลการจัดประสบการณ์แบบโครงการเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ด้านการสังเกตการสื่อสารความหมาย ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3. วารสารพุทธศาสตร์ มจร.อุบลราชธานี, 4(1), 25–36. https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JOBU2025/article/view/3902

Brandt, R. S. (Ed.). (1979). Partners: Parents & Schools. ERIC Clearinghouse on Early Childhood Education. https://files.eric.ed.gov/fulltext/ED177700.pdf

Dewey, J. (1938). Experience and Education. New York. https://philpapers.org/rec/DEWEAE-2?utm_source=chatgpt.com

Epstein, J. L. (1995). School/Family/Community partnerships: Caring for the children we share. Phi Delta Kappan, 76(9), 701-712.

Epstein, J. L. (1998). School, Family, and Community Partnerships: Preparing Educators and Improving Schools. Routledge. https://www.taylorfrancis.com/books/mono/10.4324/9780429494673

Guilford, J. P., & Hoepfner, R. (1971). The analysis of intelligence. McGraw-Hill,125–127.https://books.google.co.th/books/about/The_Analysis_of_Intelligence.html?id=7JpAvwEACAAJ&redir_esc=y

Helm, J., Beneke, S., & Steinheimer, K. (1998). Windows on learning: Documenting young children's work. New York: Teacher's College Press, 39, 35-100. https://www.tcpress.com/windows-on-learning-9780807747865

Helm, J. H., & Katz, L. G. (2001). Young investigators: The project approach in the early years. Teachers College Press.

Magdalena, I., Fadhillahwati, N. F., Amalia, R., & Farhana, S. (2023). Improving Mathematics Learning Outcomes Through Problem Based Learning (PBL) Learning Model For 4th Grade Students. Romeo Review of Multidisciplinary Education culture and Pedagogy, 2(2), 78-82. https://doi.org/10.55047/romeo.v2i2.692