ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดทำบัญชีครัวเรือนและต้นทุนอาชีพของเกษตรกรในโครงการพระราชดำริ
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการจัดทำบัญชีครัวเรือนและต้นทุนอาชีพของเกษตรกรในโครงการพระราชดำริ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการจัดทำบัญชี (2) ความสัมพันธ์ระหว่างสถานภาพทั่วไปต่อปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการจัดทำบัญชี และ (3) สภาพปัญหาอุปสรรคในการจัดทำบัญชีครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ โดยกลุ่มประชากรที่ศึกษาครั้งนี้ คือเกษตรกรในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 384 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติอนุมาน ผลการวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความเห็นในภาพรวมมากที่สุดด้านทัศนคติ รองลงมาคือด้านการส่งเสริมและการสนับสนุน และด้านความรู้ความเข้าใจ ตามลำดับ การศึกษาความแตกต่างสถานภาพทั่วไปต่อปัจจัย พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่งผลต่อปัจจัยด้านความรู้ความเข้าใจ ทัศนคติ และได้รับการส่งเสริมสนับสนุนในระดับที่แตกต่างกัน ด้านความสัมพันธ์ระหว่างสถานภาพทั่วไปต่อปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการจัดทำบัญชีพบว่ารายได้ต่อเดือนและความถี่ในการจดบันทึกมีความสัมพันธ์ต่อปัจจัยด้านความรู้ความเข้าใจ ในขณะที่อายุและระดับการศึกษามีความสัมพันธ์ต่อปัจจัยด้านทัศนคติ ด้านการส่งเสริมและสนับสนุน โดยมีระดับนัยสำคัญทางสถิติ ปัญหาและอุปสรรคในการจัดทำบัญชี พบว่า มีความยุ่งยากและซับซ้อน ไม่สามารถจดจำรายการที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้ เขียนและอ่านหนังสือไม่ออก และขาดสิ่งอำนวยความสะดวกในการจดบันทึก และติดตามผลต่างต่อเนื่องและขาดการช่วยเหลือแนะนำจากภาครัฐ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการส่งเสริมความรู้ทางการเงิน และจัดให้มีการสนับสนุนสำหรับเกษตรกรที่มีส่วนร่วมในโครงการจากสถาบันที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. ทัศนะและข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารนวัตกรรมสังคมและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นทัศนะของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยกับทัศนะเหล่านั้นและไม่ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
2. ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละบทเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงฝ่ายเดียว
3. ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นได้รับการสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย การตีพิมพ์ซ้ำต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์. (2567). โครงการพระราชดำริ ประจำปีงบประมาณ 2567. https://www.cad.go.th/main.php?filename=royalproject.
จันทร์ศิลา จะเปี้ย. (2566). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา
ความยากจนของเกษตรกรไทยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ [การค้นคว้าอิสระรัฐศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์]. https://doi.org/10.14457/TU.the.2023.1147
นิพันธ์ เห็นโชคชัยชนะ. (2559). บัญชีพอเพียง: แก้ความยากจน. วารสารวิชาชีพบัญชี, 12(36). 76-84. https://doi.nrct.go.th/ListDoi/listDetail?Resolve_DOI=10.14456/jap.2016.34
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น
พะยอม วงศ์สารศรี. (2562). จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพฯ: สารเชษฐ.
ไพศาล วรคำ. (2559). การวิจัยทางการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 8). มหาสารคาม: ตักศิลาการพิมพ์.
วิชิต เอียงอ่อน และ อลิษา ประสมผล. (2567). การวิเคราะห์สภาพปัญหา อุปสรรคและแนวทางการจัดทําบัญชีครัวเรือน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนบ้านหมู่ 1 ตําบลเกาะกูด อําเภอเกาะกูด จังหวัดตราด. วารสารวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 6(1), 103-118. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jmspsru/article/view/268504
สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์. (2561). การบัญชีต้นทุน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แมคกรอฮิลล์.
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2568). การแถลงข่าวรายงำนภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ของปี 2567 ทั้งปี 2567 และแนวโน้มปี 2568. https://www.nesdc.go.th/ewt_dl_link.php?nid=16142&filename=QGDP_report
สุภาวรรณ ปานจุ้ย. (2560). การศึกษาทัศนคติที่มีต่อพรีเซนเตอร์ซึ่งมีพฤติกรรมถ่อยเท่ของกลุ่มวัยรุ่นในกรุงเทพมหานคร [การค้นคว้าอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยนเรศวร].https://doi.org/10.14457/TU.the.2017.161
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2566). สำมะโนการเกษตร. https://www.nso.go.th/nsoweb/main/summano/P7
อุษา จูฑะสุวรรณศิริ. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดทำบัญชีครัวเรือนของชุมชนบางไส้ไก่แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี, 14(1), 163-174. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journaldru/article/view/253544
Abebe A. (2017). Factors Affecting Rural Household Saving (In Case of Wolayita Zone Ofa Woreda). Journal of Poverty, Investment and Development, 36, 40-45. https://core.ac.uk/download/pdf/234695789.pdf
Adeniyi, S. I., & Ojuye, T. E. (2021). Family Attributes and Household Accounting in Ogun State, Nigeria. Journal of Academic Research in Economics, 13 (2), 297-208. https://www.ceeol.com/search/article-detail?id=983488
Assael, H. (1995). Consumer behavior and marketing action (5th ed.). The United of America: International Thomson.
Best, J. W. (1981). Research in education. (4th ed). New Jersey: Prentice Hall.
Biyanwila, B. P. U. K., & Anuradha, P. A. N. S. (2023). Behavioral Factors Affecting Household Over-Indebtedness: A Systematic Review. Journal of Business Research and Insights, 9(I), 84-107. https://doi.org/10.31357/vjm.v9iI.6373
Bloom, B. S., Madaus, G. F., & Hastings, J. T. (1971). Hand Book on Formative and Summative Evaluation of Student Learning. New York: McGraw – Hill Book.
Cronbach, L. J. (1970). Essentials of psychological testing. (3rd ed.). New York: Harper & Row
Hoxha, A., Shahu, E., & Gjokaj, E. (2022). Farmers’ financial education key determinant factors – case of the vegetable sector in Kosovo. Journal of Economy and Agribusiness/FEA, 15(2), 54-63. https://www.researchgate.net/publication/376851119
Klopfer, L. E. (1971). Evaluation of Learning in Science. Handbook on Formative and Summative Evaluation of Student Learning. New York: McGraw-Hill hook company.
Prasetyo, W. (2020). COVID-19 Learning Concerning Financial Planning Importance and Household Acconting. Journal Revie Akuntansi dan Keuangan, 10(3), 444-457. https://www.doi.org/10.22219/jrak.v10i3.13554
Truong D. V., Giao, N. & Ly, L. T. T. (2020). Factors Affecting the Role of Women in The Economec Development of Rural Household Families in Vietnam: A Case Study in Trieu Son District Thanh Hoa Province. Growing Science, 6, 267–272. https://www.doi.org/10.5267/j.ac.2020.3.001
