ผลการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ผังมโนมติรูปตัววี เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ผังมโนมติ
รูปตัววี2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ผังมโนมติรูปตัววี
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนบ้านผาบ่อง ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558
จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้
วิชาวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ระบบต่างๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ แบบวัดความสามารถ
ด้านการคิดวิเคราะห์โดยใช้ผังมโนมติรูปตัววี ที่มีค่าความเชื่อมั่น 0.98 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ระบบต่างๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ ที่มีค่าความเชื่อมั่น 0.82 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและร้อยละของค่าเฉลี่ยโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
- ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยการสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ผังมโนมติรูปตัววี หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วย การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ผังมโนมติรูปตัววี หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
Article Details
1. ทัศนะและข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารนวัตกรรมสังคมและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นทัศนะของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยกับทัศนะเหล่านั้นและไม่ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
2. ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละบทเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงฝ่ายเดียว
3. ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นได้รับการสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย การตีพิมพ์ซ้ำต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กมลวรรณ กันยาประสิทธิ์. (2559). 5 คุณลักษณะสำคัญของการสืบเสาะหาความรู้ (5 Essential features of inquiry). สืบค้นเมื่อ 10 เมษายน 2559, จาก http://sciedcenter.swu.ac.th/Portals/25/Documents/News/5 Essential features of inquiry_Kamonwan.pdf?timestamp=1434440007462.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรการแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ชุติมา โรจนสโรจน์. (2553). ผลของวงจรการเรียนรู้แบบ 5E เสริมด้วยผังมโนทัศน์รูปตัววีที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุดรธานี.
ชุมพล ชารีแสน (2554). ความเข้าใจมโนมติทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีวิตและสิ่งแวดล้อมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ผังมโนมติรูปตัววี. ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต,สาขาวิทยาศาสตร์ศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ทิศนา แขมมณี. (2554). ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นุชนาท สิงหา. (2554). ผลการใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิคการจัดแผนผังมโนทัศน์ เรื่อง ไฟฟ้าเคมี ที่มีต่อความสามารถในการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต, วิทยาศาสตร์ศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ประถมพร โคตา. (2554). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้และการเขียนผังมโนมติ. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการมัธยมศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ผ่องศรี เครือกลัด. (2557). การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน เรื่อง แรงและความดันของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้วัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ผสมผสานกับผังมโนทัศน์รูปตัววี. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์.
ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน. (2556). ตัวอย่างการจัดทำคำอธิบายรายวิชาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2556
จากhttp://www.ipst.ac.th/web/images/stories/files/Curriculum/des_secondscience.pdf.
_______________. (2556). ผลการประเมิน PISA 2012 คณิตศาสตร์ การอ่าน และวิทยาศาสตร์ บทสรุป ผู้บริหาร. กรุงเทพฯ: แอดวานซ์ พริ้นติ้ง เซอร์วิช.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). สรุปผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน(O-NET)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2559, จาก http://www.niets.or.th/.
สมจิต ผอมเซ่ง. (2556). ผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับการใช้เทคนิคผังกราฟิกที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา. ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต, หลักสูตร และการสอน ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ. (2559). สมรรถนะการศึกษาไทยในเวทีสากล พ.ศ. 2558 (MID 2015). กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
____________. (2558). โครงการปฏิรูปการเรียนรู้สู่ผู้เรียน(พ.ศ. 2557 – 2560)สะท้อนปัญหาและทางออกตอบโจทย์ปฏิรูปการศึกษาไทย. กรุงเทพฯ:
เซ็นจูรี่ จำกัด.สำนักนโยบายด้านการศึกษามหภาค, กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). เป้าหมายยุทธศาสตร์และตัวบ่งชี้การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง(พ.ศ.2552 – 2561). กรุงเทพฯ.
____________. (2554). นโยบายหลักเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง(พ.ศ. 2554 - 2561). กรุงเทพฯ.
อรพรรณ ฤทธิ์มั่น. (2558). บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU)เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของเด็กเยาวชนและครูไทยในศตวรรษที่ 21. สืบค้นเมื่อ 8 พฤษภาคม 2559, จาก htt://www.moe.go.th/websm/2015/dec.
Gowin, D.Bob. & Alvarez, C.Marino, (2005). The Art of Educating with V Diagrams, New York : Cambridge University Press.
Kanagge, M.Christine, & Schneider M.Rebecca. (2011). Thinking Like a Scientist: Using Vee-Maps to Understand Process and Concepts in Science. Springer. 2011.
Margaret Coffman. & Leela Riggs. (2006). The Virtual Vee Map A Template for Internet Inquiry. Journal of College Science Teaching. 2006(Vol. XXXV), 32 – 39.
Novak, D.Joseph & Gowin, D.Bob, (2008). Learning How to Learn. New York: Cambridge University Press.