สภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการจำเป็นในการนิเทศเพื่อส่งเสริม สมรรถนะด้านการวิจัยของครูอาชีวศึกษา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสังเคราะห์สมรรถนะด้านการวิจัยของครูอาชีวศึกษา เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการจำเป็นในการนิเทศส่งเสริมสมรรถนะด้านการวิจัยของครูอาชีวศึกษา การสังเคราะห์สมรรถนะด้านการวิจัยจากเอกสาร ตำรา งานวิจัย และบทความที่เกี่ยวข้อง จำนวน 39 เรื่อง โดยใช้กรอบแนวคิดการวิเคราะห์หน้าที่งาน (Functional Analysis) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือครูผู้สอน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จำนวน 1,222 คน โดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi - Stage Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสังเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถาม เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ค่าสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD.) ค่าดัชนีความต้องการจำเป็น Modified Priority Need Index (PNImodified) และค่าความแปรปรวน ใช้ Analysis of Variance : ANOVA (F)
ผลการวิจัย พบว่า สมรรถนะด้านการวิจัยของครูอาชีวศึกษามีทั้งหมด 5 ด้าน 19 สมรรถนะหลัก และ 76 สมรรถนะย่อย ได้แก่สมรรถนะประจำสายงาน (Specific Functional Competence) จำนวน 2 ด้าน คือ1) ด้านสาขาวิชาที่ทำวิจัย และ2) ด้านระเบียบวิธีวิจัย สมรรถนะพื้นฐาน (Common Functional Competence) จำนวน 3 ด้าน คือ 1) ด้านการใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ 2)ด้านการใช้ภาษา และ 3) ด้านการบริหารจัดการ ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการจำเป็น พบว่าสมรรถนะที่มี
ความต้องการจำเป็นมากที่สุดคือ ด้านระเบียบวิธีวิจัย รองลงมาคือด้านการใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านการใช้ภาษา ด้านการบริหารจัดการ และด้านสาขาวิชาที่ทำวิจัย ตามลำดับ (PNImodified = 0.45, 0.16, 0.09, 0.08, 0.02) ผลของการเปรียบเทียบสภาพปัจจุบันปัญหาและความต้องการจำแนกตามประเภทสถานศึกษา คือวิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยอาชีวศึกษา วิทยาลัยการอาชีพ วิทยาลัยสารพัดช่าง และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี พบว่าครูอาชีวศึกษามีสมรรถนะด้านการวิจัยที่เป็นจริงในปัจจุบันไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 (F=.40 ) แต่มีความต้องการแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 (F=9.91)
Article Details
1. ทัศนะและข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารนวัตกรรมสังคมและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นทัศนะของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยกับทัศนะเหล่านั้นและไม่ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
2. ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละบทเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงฝ่ายเดียว
3. ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นได้รับการสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย การตีพิมพ์ซ้ำต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้เขียนและมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กัญญา กำศิริพิมาน และหวน พินธุพันธ์. (มปป.). การวิจัยอาชีวศึกษา. สืบค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2554 จาก www.202.143.172.202 /napatsawan/ing/all
เกียรติสุดา ศรีสุข. (2552). ระเบียบวิธีวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 3, เชียงใหม่. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ถาวร เส้งเอียดและคณะ. (2554). สภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาตนเองของครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดราชบุรีและสมุทรสงคราม. ใน สิทธิผล อาจอินทร์ (บรรณาธิการ). วารสารศึกษาศาสตร์ ปีที่ 34 ฉบับที่ 3-4 กรกฎาคม – ธันวาคม 2554 (หน้า 108 – 116). มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2548). การนิเทศการสอน. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพฯ.
ไพฑูรย์ สินลาพันธ์,บรรณาธิการ. (2555).เพื่อความเป็นเลิศของครุศึกษาไทย. กรุงเทพฯ. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต.
มงคลชัย สมอุดร. (2556). การปรับปรุงการเขียนหัวข้อเสนอโครงการวิจัยสายอาชีวศึกษา.เอกสารสรุปการบรรยายพิเศษในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการการปรับปรุงการเขียนหัวข้อเสนอโครงการวิจัยสายอาชีวศึกษา.” วันที่ 5 กันยายน 2556 ณ โรงแรมทาวน์อินทาวน์. กรุงเทพฯ
มนูญ อรุณไพโรจน์. (2550). “หน่วยที่ 1 พื้นฐานของการนิเทศการสอน” ประมวลสาระชุดวิชาการนิเทศการสอนระดับประถมศึกษา. นนทบุรี. มหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมมาธิราช.
วัชรา เล่าเรียนดี. (2554). การนิเทศการสอน. พิมพ์ครั้งที่ 8 นครปฐม: ภาควิชาหลักสูตรและวิธีสอน. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วีระพันธ์ พูลพัฒน์. (2548). เอกสารการสอนหลักการนิเทศการศึกษา. กรุงเทพฯ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคเหนือ. (2556). การศึกษาสภาพปัญหาด้านการวิจัยของสถานศึกษาอาชีวศึกษาในเขตภาคเหนือ. เชียงใหม่. ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคเหนือ.
สันติ บุญภิรมย์. (2553). หลักการบริหารการศึกษา. กรุงเทพฯ บุคพอยท์.
สุกัญญา แช่มช้อย. (2559). กลยุทธ์การเสริมพลังอำนาจครูในการทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตภาคเหนือตอนล่าง. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น 10(2), 84 – 96
สุวิมล ว่องวานิช. (2553). การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน. พิมพ์ครั้งที่ 14, กรุงเทพฯ. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2554). ยุทธศาสตร์สู่การปฏิรูปของสำนักงานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษา นโยบาย ยุทธศาสตร์การผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาในระยะ 5 ปี (พ.ศ.2555 – 2559). กรุงเทพฯ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา.
อภิสรรค์ ภาชนะวรรณ. (2552). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยของครูด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์ดุษฎี บัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล. นครราชสีมา.
อัญชลี โพธิ์ทอง. (2549). นิเทศการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
อุไรวรรณ หาญวงค์. (2557). การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพครู. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น 8(1), 104-120
Certo, Samuelc. (2000). Supervision : Concept and Skill Building. 3rd ed. Mcgraw_Hill Higher Education.
Glickman, Carl D. (1990). Supervision and Instruction: A Devevelopment . Approach. 2nd ed. Massachusetts: Allyn and Bacon, Inc,.