สมรรถนะภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 จังหวัดนครราชสีมา
คำสำคัญ:
สมรรถนะ, ภาวะผู้นำ, การศึกษาขั้นพื้นฐานและภาวะผู้นำสถานศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยแบบผสมผสานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมรรถนะภาวะผู้นำและแนวทางการพัฒนาสมรรถนะภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา 140 คน ซึ่งได้มาจากตารางกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของเครจซีและมอร์แกน โดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น และผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบสนทนากลุ่มแบบสอบถามมีความตรงเชิงเนื้อหาของค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ระหว่าง 0.80-1 และค่าความเชื่อมั่น 0.90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
- สมรรถนะภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษามุ่งผลสัมฤทธิ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยคือ ด้านมุ่งผลสัมฤทธิ์ ด้านฉลาดทางอารมณ์ ด้านผู้นำเชิงกลยุทธ์ และผู้นำโดยรวม ตามลำดับ
- แนวทางการพัฒนาสมรรถนะภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้ง 4 ด้าน คือ 1) ด้านผู้นำเชิงกลยุทธ์ คือการแสดงออกความเป็นมืออาชีพที่ดีในฐานะผู้นำมีการสื่อสารเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของโรงเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ประเมินต้นทุนและผลประโยชน์ในการจัดการความเสี่ยงในการกระจายทรัพยากรของโรงเรียนเพื่อประโยชน์สูงสุด มีทักษะหลากหลายในการแก้ปัญหาที่แสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำ 2) ด้านมุ่งผลสัมฤทธิ์ คือ จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่มุ่งให้เกิดผลดี คุ้มค่าต่อการศึกษาและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้มีการวิจัยเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้ในการบริหารจัดการศึกษา 3) ด้านความฉลาดทางอารมณ์ พฤติกรรมเกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ ตระหนักถึงความรู้สึกการมองโลกในแง่ดี การสร้างบรรยากาศในการทำงานอย่างสนุกสนาน รอบรู้ธุรกิจคิด และทำอย่างมียุทธศาสตร์ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ยึดหลักธรรมมาภิบาลในการบริหารโรงเรียนและสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับบุคคลที่มีความแตกต่างและหลากหลาย และ 4) ด้านผู้นำโดยรวม การเข้าใจพฤติกรรมของเพื่อนร่วมงาน สร้างเสริมบรรยากาศในการทำงาน สร้างวัฒนธรรมองค์กร ให้ทุกฝ่ายมีโอกาสบริหารจัดการสถานศึกษา จัดระบบการเรียนรู้ ยอมรับในความสามารถที่แตกต่างของแต่ละบุคคลและสามารถบริหารจัดการบุคคลให้สามารถทำงานเต็มตามความสามารถอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ