การพัฒนาพฤติกรรมการมีมารยาทไทยของครูอนุบาลชาวต่างชาติโดยการฝึกอบรมมารยาทไทย โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเพรพ สาขาสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร

ผู้แต่ง

  • ชลธิชา สุนาคำ นักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
  • ปิยลักษณ์ อัครรัตน์ อาจารย์ประจำ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

คำสำคัญ:

ครูอนุบาลชาวต่างชาติ , การฝึกอบรม , มารยาทไทย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการมีมารยาทไทยของครูอนุบาลชาวต่างชาติ ที่โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเพรพ สาขาสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร ก่อนและหลังการฝึกอบรมมารยาทไทย และ2) เพื่อประเมินความพึงพอใจของครูอนุบาลชาวต่างชาติต่อการฝึกอบรมมารยาทไทย โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเพรพ สาขาสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร ประชากร คือ ครูอนุบาลชาวต่างชาติที่โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเพรพ สาขาสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา 2566 รวมทั้งสิ้น 5 คน ระยะเวลาในการทดลอง 8 ครั้ง ครั้งละ 3 ชั่วโมง วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 09.00 น.-12.00 น. จำนวน 2 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการฝึกอบรมมารยาทไทย 2) แบบสังเกตพฤติกรรมการมีมารยาทไทย 3) แบบประเมินความพึงพอใจของครูอนุบาลชาวต่างชาติต่อการฝึกอบรมมารยาทไทย สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า 1) พฤติกรรมการมีมารยาทไทยของครูอนุบาลชาวต่างชาติ ที่โรงเรียนอนุบาล นานาชาติเพรพ สาขาสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร หลังการฝึกอบรมมารยาทไทยสูงกว่าก่อนการฝึกอบรมมารยาทไทยซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ โดยคะแนนก่อนการฝึกอบรมมารยาทไทย มีค่าเฉลี่ย = 24.20 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 12.76 และหลังการฝึกอบรมมารยาทไทย มีค่าเฉลี่ย = 73.00 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.00 และ 2) ความพึงพอใจของครูอนุบาลชาวต่างชาติต่อการฝึกอบรมมารยาทไทย ที่โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเพรพ สาขาสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ คือ ความพึงพอใจของครูอนุบาลชาวต่างชาติต่อการฝึกอบรมมารยาทไทย อยู่ในระดับมากหรือมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย = 4.90 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.07 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านวิทยากร ด้านการให้บริการของเจ้าหน้าที่โครงการ และด้านความเข้าใจและการนำความรู้ไปใช้มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดเท่ากัน มีค่าเฉลี่ย = 5.00 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.00 ส่วนด้านสถานที่ / ระยะเวลา / อาหาร มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด มีค่าเฉลี่ย = 4.55 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.33

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. คุรุสภาลาดพร้าว.

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม. (2562). มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปีพุทธศักราช 2562. กรมส่งเสริมวัฒนธรรม.

จรัญญา ปานเจริญ. (2556). การเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของนักศึกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

ญาณิศา นาคทัพ. (2560). การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมด้านมารยาทการพูดสุภาพสำหรับเด็กปฐมวัยช่วงอายุ 2 - 4 ปี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านตลิ่งสูง จังหวัดอุทัยธานี โดยใช้นิทานประกอบการเสริมแรงทางบวก. [ปริญญานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา], มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.

บุญชม ศรีสะอาด. (2554). หลักการวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. สุวีริยาสาส์น.

พระรณชัย ปโยควิจิตโต จันทร์หอม. (2561). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องความเป็นไทย รายวิชาหน้าที่พลเมือง โดยใช้การเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดถอนสมอ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี. [ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา], มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์.

ภาสิต ศิริเทศ และณพวิทย์ ธรรมสีหา. (2562). ทฤษฎีการรับรู้ความสามารถของตนเองกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ วารสารพยาบาลทหารบก, 2562, 20(2), 8-10.

สุวรรณา จุ้ยทอง. (2562). ความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงผลิตภาพ รายวิชาหลักการจัดการเรียนรู้ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 9(1), 11-14.

Piaget. J. (1971). The Theory of Stages in Cognitive Development. In D. Green, M. Ford, P. & Flamer, G. B. (Eds.), Measurement and Piaget (pp. 1-11). McGraw-Hill.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-29

รูปแบบการอ้างอิง

สุนาคำ ช., & อัครรัตน์ ป. . . (2025). การพัฒนาพฤติกรรมการมีมารยาทไทยของครูอนุบาลชาวต่างชาติโดยการฝึกอบรมมารยาทไทย โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเพรพ สาขาสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ, 14(1), 25–39. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/NBU/article/view/278481

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย