การพัฒนาผลการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ เรื่องความเป็นมาของชาติไทย ในสมัยสุโขทัย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด TPACK
คำสำคัญ:
แผนการจัดการเรียนรู้, การพัฒนาสมองเป็นฐาน, การ์ตูนแอนิเมชัน, การพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำภาษาไทยบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิผลของการเรียนรู้ด้วยแผนจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ เรื่องความเป็นมาของชาติไทยในสมัยสุโขทัย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ด้วยวิธีการจัดการเรียนตามแนวคิด TPACK 2) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียน และหลังเรียน วิชาประวัติศาสตร์ เรื่องความเป็นมาของชาติไทยสมัยสุโขทัยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด TPACK และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกระบวนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ เรื่องความเป็นมาของชาติไทยในสมัยสุโขทัย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด TPACK การวิจัยครั้งนี้กลุ่มตัวอย่างใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ห้อง ป.4/2 จำนวน 30 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 ที่ได้มาจากการสุ่มตัวอย่าง แบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้จัดเก็บข้อมูล ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียน จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติค่าดัชนีประสิทธิผล และการทดสอบค่าทีแบบกลุ่มไม่อิสระกัน
ผลการวิจัยพบว่า ประสิทธิผลของการเรียนรู้ด้วยแผนจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ เรื่องความเป็นมาของชาติไทยในสมัยสุโขทัย ด้วยวิธีการจัดการเรียนตามแนวคิด TPACK สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) จังหวัดนครพนม นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นในการจัดการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยล 68.48 มีค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I) เท่ากับ 0.6848 2) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ เรื่องความเป็นมาของชาติไทยในสมัยสุโขทัย โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด TPACK พบว่า คะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 16.57 คิดเป็นร้อยละ 55.22 และคะแนนหลังเรียน เท่ากับ 25.77 คิดเป็นร้อยละ 85.89 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) ความพึงพอใจโดยรวมของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ เรื่องความเป็นมาของชาติไทยในสมัยสุโขทัย โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) จังหวัดนครพนม มีความพึงพอใจ เท่ากับ 4.56 อยู่ในระดับมากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
จันทร์ ติยะวงศ์. (2567). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและกระบวนการการแก้ปัญหาจากการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ, 13(2), 93-103.
เจษฎากร บุญแสน, อนันต์ ปานศุภวัชร, และ กุลวดี สุวรรณไตรย์. (2567). การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง โดยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับ TPACK. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์, 12(3), 50-59.
ชนัญชิดา น้อยวิเศษ. (2564). การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการสอนแบบหมวกหกใบร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์รายวิชาประวัติศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 [วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
ชัยวัฒน์ แก้วพันงาม. (2561). แนวทางในการผสมผสานดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อการสอนภาษา. วารสารภาษาปริทัศน์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 18(33), 15-20.
ฐิติมา บุตตะ และคณะ. (2567). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การจัดการเรียนรู้ โดยใช้ TPACK Model เรื่อง ศาสนาสากล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 [วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร-มหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
เทศบาลเมืองนครพนม. (2567). รายงานสถิติจำนวนนักเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองนครพนม ประจำปีการศึกษา 2567. กองการศึกษา เทศบาลเมืองนครพนม.
นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2543). การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน: การวิจัยเชิงปฏิบัติการของครู. วารสารการวัดผลการศึกษา, 24(1), 35-39.
นรรัชต์ ฝันเชียร์. (2564, 15 มิถุนายน). แนวทางการจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ในยุคปัจจุบัน. ทรูปลูกปัญญา. https://www.trueplookpanya.com/blog/content/89390/-teaedu-
ปานตะวัน ทายงาม. (2567). ประสิทธิผลของผังความคิดในการพัฒนาทักษะการสรุปความกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านแม่หวาน. วารสารปัญญา, 29(2), 12-25.
ปาริชาต สถาปิตานนท์. (2546). ระเบียบวิธีวิจัยการสื่อสาร. (พิมพ์ครั้งที่ 3). สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ปิยะราช วรสวัสดิ์. (2562). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง วิเคราะห์ประเด็นสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
พัชรา พลเยี่ยม และ ปาริชาติ ประเสริฐสังข์. (2567). แนวทางการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถามระดับสูง. วารสารมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และนวัตกรรม, 3(1), 68-85.
ศิริพร ทานะเวช. (2564). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง ความน่าจะเป็นระหว่างการจัดการเรียนรู้เทคนิค KWDL กับการจัดการเรียนรู้แบบปกติ [วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สุวรรณา แก้วศรีใส และ สยาม จวงประโคน. (2564). กระบวนการจัดการเรียนรู้รายวิชาดนตรีตามกรอบ TPACK MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองดู่ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 40(1), 129-140.
อนุพงษ์ สุขรมย์ และ รัตนะ ปัญญาภา. (2566). การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง ที่ตั้งและสภาพภูมิศาสตร์ที่มีผลต่อพัฒนาการของทวีปเอเชีย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28 จังหวัดยโสธร โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ TPACK MODEL. วารสารครุทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 3(2), 79-92.
Koehler, M. J., & Mishra, P. (2008). Introducing TPCK. In AACTE Committee on Innovation and Technology (Ed.), Handbook of technological pedagogical content knowledge (TPCK) for educators (pp. 3–29). Routledge.
Mishra, P., & Koehler, M. J. (2008). Technological Pedagogical Content Knowledge: A new framework for teacher knowledge. Teachers College Record, 108(6), 1017-1054.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.