การประเมินโครงการ Science Technology and Innovation (STI) : Smart Intensive Farming ของโรงเรียนห้วยสักวิทยาคม THE PROJECT EVALUATION OF SCIENCE TECHNOLOGY AND INNOVATION (STI) : SMART INTENSIVE FARMING OF HUAISAKWITTHAYAKOM SCHOOL

Main Article Content

ศุภวิศว์ ตาหล้า

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ


การประเมินโครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ประเมินบริบทของโครงการ Science Technology and Innovation (STI) : Smart Intensive Farming ของโรงเรียนห้วยสักวิทยาคม 2. ประเมินปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ Science Technology and Innovation (STI) : Smart Intensive Farming ของโรงเรียนห้วยสักวิทยาคม 3. ประเมินกระบวนการของโครงการ Science Technology and Innovation (STI) : Smart Intensive Farming ของโรงเรียนห้วยสักวิทยาคม 4. ประเมินผลผลิตของโครงการ Science Technology and Innovation (STI) : Smart Intensive Farming ของโรงเรียนห้วยสักวิทยาคม ประชากรที่ใช้ในการประเมิน ปีการศึกษา 2563 รวมจำนวน 1,067 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ประกอบด้วยแบบประเมิน แบบบันทึกและแบบสอบถามความพึงพอใจ เครื่องมือทุกฉบับมีค่าความตรงเชิงเนื้อหา : IOC 0.80 – 1.00 การวิเคราะห์ข้อมูลผล โดยคำนวณหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน


ผลการประเมินโครงการ ทั้ง 4 ด้าน คือ บริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลผลิตของโครงการ (ทักษะอาชีพ ความพึงพอใจของครู ความพึงพอใจของนักเรียน ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียน ความยั่งยืน และการถ่ายโยงความรู้) อยู่ในระดับมากที่สุด และผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน และการประเมินสมรรถนะของนักเรียน ปีการศึกษา 2563 สูงกว่าปีการศึกษา 2562

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

เอกสารอ้างอิง

ภานุมาศ หมอสินธ์ ; พรทิพย์ ครามจันทึก, อิทธิฤทธิ์ ลีลาดุษฎีเลิศ, เกษม ศุภสิทธิ์,

อินทิรา มุงเมือง. (2564). พระราชบัญญัติการศึกษา: ความสําคัญต่อการจัดการเรียนในศตวรรษที่ 21.วารสารวิชาการสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิก, 7(3), 74-86.

สํานักบริหารงานความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา (สบว.). (2563). การจัดทำโครงการ

Science Technology Innovation (STI) : Smart Intensive Farming. สํานักงาน

คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)

รัตนะ บัวสนธ์. (2556). วิจัยเชิงคุณภาพทางการศึกษา = Qualitive research in education. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Stufflebeam and Shinkfield. (2007). Evaluation Theory, Models and

Applications. John Wiley and Son, Ine.

อุทัย อันพิมพ์. (2554). การจัดการความรู้เพื่อการทำเกษตรประณีตตามแนวทางเศรษฐกิจ

พอเพียง. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาบูรณาการศาสตร์). อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.

ยุพิน รอดประพันธ์. (2561). การประเมินโครงการโรงเรียนคุณธรรมโดยประยุกต์ใช้ รูปแบบ การประเมินซิป (CIPP Model) โรงเรียนวัดห้วยธารทหาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 3. นครสวรรค์: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 3.

พัชรินทร์ บัวเย็น และชัยวิทย์ ถิระวณัฐพงศ์. (2562). การศึกษาแนวทางของเทคโนโลยีฟาร์มอัจฉริยะเพื่อรองรับการขับเคลื่อนแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สู่ประเทศไทย 4.0 กรณีศึกษาสวนผลไม้วังสวนบ้านแก้ว. (รายงานการวิจัย). จันทบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.

ปวนันพัสตร์ ศรีทรงเมืองและคณะ. (2563). การพัฒนารูปแบบระบบควบคุมฟาร์ม อัจฉริยะในโรงเรือนปลูกพืช โดยใช้คอมพิวเตอร์แบบฝัง. อยุธยา: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ

เรวัตร แก้วทองมูล. (2564). การประเมินโครงการสถานศึกษาปลอดภัยของวิทยาลัยเทคนิค

เวียงป่าเป้า. วารสารวิชาการ T-VET Journal สถาบันการอาชีวศึกษาภาคเหนือ 3. ปีที่ 5

ฉบับที่ 10 หน้าที่ 138-153.

พิสณุ ฟองศรี. (2553). วิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: ด่านสุทธาการพิมพ์.

อนุรักษ์ ปัญญานุวัฒน์. (2556). ประเมินผลการดำเนินงานโครงการการติดตามและ

ประเมินผลแผนพัฒนาสามปี (พ.ศ. 2554-2556). เชียงใหม่: สำนักบริการวิชาการ.

อนันต์ นามทองต้น. (2557). การประเมินโครงการทางการศึกษา : ปฏิบัติจริง. นนทบุรี: สหมิตร

ธิดารัตน์ สนธิ์ทิม. (2564). การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนอาชีวศึกษาที่มีต่อสื่อการ

เรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านแอปพลิเคชั่น. วารสารวิชาการ T-VET Journal สถาบันการ

อาชีวศึกษาภาคเหนือ 3. ปีที่ 5 ฉบับที่ 10 หน้าที่ 285-302.

มาเรียม นิลพันธุ์. (2553). การประเมินหลักสูตรที่เน้นการตัดสินใจโดยใช้วิธีเชิงระบบโดยใช้รูปแบบ CIPP Model. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.