รูปแบบการบริหารจัดการศึกษาในวิถีการเรียนรู้ใหม่หลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาในบริบทที่เปลี่ยนแปลง วิทยาลัยการอาชีพนครไทย THE MODEL FOR THE ADMINISTRATION OF NEW MORMAL LEARNING AFTER COVID-19 CRISIS TO DEVELOP THE QUALITY OF VOCATIONAL STUDENTS IN CHANGING CONTEXT, NAKHONTHAI INDUSTRIAL AND COMMUNITY EDUCATION COLLEGE

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและแนวทางการบริหารจัดการศึกษาในวิถีการเรียนรู้ใหม่หลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาในบริบทที่เปลี่ยนแปลง วิทยาลัยการอาชีพนครไทย 2) สร้างรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาในวิถีการเรียนรู้ใหม่หลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาในบริบทที่เปลี่ยนแปลง วิทยาลัยการอาชีพนครไทย 3) ทดลองและประเมินผลการใช้รูปแบบ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 4 คน ครูผู้สอน จำนวน 34 คน รวม 38 คน และการเก็บข้อมูลจากผู้เรียน ใช้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 120 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบบันทึกข้อมูล แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่า ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา     

          ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพการบริหารจัดการศึกษาในวิถีการเรียนรู้ใหม่หลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาในบริบทที่เปลี่ยนแปลง ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และแนวทางการบริหารจัดการศึกษาในวิถีการเรียนรู้ใหม่หลังวิกฤตโควิด- 19 เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาในบริบทที่เปลี่ยนแปลง พบว่า 1) ควรมีการกำหนดเป้าหมายการจัดการศึกษา 2) ควรกำหนดแนวทางการบริหารจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับวิถีการเรียนรู้ใหม่ และ 3) ควรมีการติดตามและประเมินผลการบริหารจัดการศึกษาอย่างเป็นระบบ 2. รูปแบบที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) เป้าหมายการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาในวิถีการเรียนรู้ใหม่หลังวิกฤตโควิด-19 2) การบริหารจัดการศึกษาในวิถีการเรียนรู้ใหม่หลังวิกฤตโควิด–19 3) การติดตามและประเมินผลการบริหารจัดการศึกษา และ 4) เงื่อนไขความสำเร็จในการบริหารจัดการศึกษาวิถีการเรียนรู้ใหม่หลังวิกฤตโควิด–19 3. ผลการทดลองใช้รูปแบบ พบว่า รูปแบบมีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด ความพึงพอใจของผู้ร่วมโครงการสำหรับใช้รูปแบบ อยู่ในระดับมากที่สุด และ ผลการประเมินผลใช้รูปแบบ พบว่า 1) คุณภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาในบริบทที่เปลี่ยนแปลง ด้านความรู้และทักษะ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.16 2) ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการบริหารจัดการศึกษาในวิถีการเรียนรู้ใหม่หลังวิกฤตโควิด-19 อยู่ในระดับมากที่สุด และ 3) ความพึงพอใจของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนที่มีต่อรูปแบบ อยู่ในระดับมาก