การพัฒนากิจกรรมการเรียนศิลปะโดยใช้การวิจัยเป็นฐาน Research – Based Learning : RBL ในรายวิชาการสร้างแบรนด์และการออกแบบอัตลักษณ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

Main Article Content

วรอัญญู ณรงค์เดชา

บทคัดย่อ

การพัฒนากิจกรรมการเรียนศิลปะโดยใช้การวิจัยเป็นฐาน Research – Based Learning : RBL ในรายวิชาการสร้างแบรนด์และการออกแบบอัตลักษณ์  ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร มีวัตถุประสงค์ดังนี้
1. เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนศิลปะโดยใช้การวิจัยเป็นฐานในรายวิชา การสร้างแบรนด์และการออกแบบอัตลักษณ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 2. เพื่อศึกษาผลการใช้กิจกรรมการจัดการเรียนศิลปะโดยใช้การวิจัยเป็นฐานในรายวิชา การสร้างแบรนด์และการออกแบบอัตลักษณ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้องศิลป์สร้างสรรค์ จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 36 คน โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีทั้งสิ้น 5 กิจกรรม ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมที่ 1 การระดมสมอง พบว่า ผู้เรียนทุกกลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมินคุณภาพชิ้นงาน อยู่ในระดับดี กิจกรรมที่ 2 เรื่อง ศึกษางานวิจัยการสร้างอัตลักษณ์สินค้า พบว่า ผู้เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ 70 โดยมีคะแนนที่ร้อยละ 89.20  กิจกรรมที่ 3 เรื่อง การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ชุมชน พบว่า ผู้เรียนมีคะแนนสูงกว่าระดับร้อยละ 70 โดยมีคะแนนที่ร้อยละ 81.40  และการออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ พบว่า ผลคะแนนของผู้เรียนอยู่ในระดับรวมในค่าเฉลี่ยระดับดีที่ 4.17 กิจกรรมที่ 4 เรื่อง แนวทางการพัฒนาสินค้าชุมชน พบว่าความพึงพอใจของผู้เรียนต่อการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการเรียนในรายวิชาสูงสุดที่ระดับ 4.79 และความพึงพอใจที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมอยู่ในระดับดีมากที่ค่าเฉลี่ย 4.60 และกิจกรรมที่ 5 เรื่อง การสร้างแบรนด์และการออกแบบอัตลักษณ์ภูมิปัญญาชุมชน พบว่า ผลการประเมินผลงานจากครูและเพื่อนร่วมชั้นเรียนอยู่ในระดับดีมาก

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ .(2544). ปฏิรูปการเรียนรู้ ผู้เรียนสำคัญที่สุด .กรุงเทพฯ .สกายบุ๊กส์.

จีรนันท์ ซันซี. (2565). ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐานที่ส่งผลต่อความตระหนักทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย.14 (2), 217-232.

ดุษฎี โยเหลา. (2557). การศึกษาการจัดการเรียนการสอนแบบ PBL ที่ได้จากโครงการสร้างชุดความรู้เพื่อสร้างเสริมทักษะ

แห่งศตวรรษที่ 21 ของเด็กและเยาวชน : จากประสบการณ์ความสำเร็จของโรงเรียนไทย.กรุงเทพฯ: ทิพยวิสุทธิ์.

บรรณรักษ์ คุ้มรักษา .(2564). การจัดการเรียนการสอนแบบใช้วิจัยเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุกในการเรียน

วิทยาศาสตร์ .ศึกษาศาสตร์สาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , 5 (1), 58-74

สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2543). ปฏิรูปการเรียนรูปผู้เรียนสำคัญที่สุด.กรุงเทพฯ :บริษัทพิมพ์ดี.

ทิศนา แขมมณี. (2548). รูปแบบการเรียนการสอนทางเลือกที่หลากหลาย .พิมพ์ครั้งที่ 3 .กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทิศนา แขมมณี. (2555). ศาสตร์การสอน. (พิมพ์ครั้งที่ 15). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2557). หลักและเทคนิคการสอนระดับอุดมศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพมหานคร: บริษัท วี. พริ้น

(1991) จำกัด.

วรอัญญู ศศิตรานนท์ ,นิรัช สุดสังข์. (2554). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างการวาดภาพอิสระและการใช้

แบบฝึกการวาดภาพ โดยใช้ผังภูมิความคิดของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนมัธยมสาธิต

มหาวิทยาลัยนเรศวร. วารสารวิชาการศิลปะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2(1),54-62.

วัฒนา รัตนพรหม. (2561). การจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานฐานวิจัย.วารสารราชภัฏสุราษฎร์ธานี ,5(2) 37–60.

ศศิธร อินตุ่น. (2558). ผลของการโค้ชต่อความรู้ และความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียนของนักศึกษาฝึกประสบการณ์

วิชาชีพครู สาขาวิชาการประถมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร ,

(3) ,196-209.

เสาวภา วิชาดี. (2554). การศึกษาในกระบวนทัศน์ใหม่:การเรียนโดยใช้วิจัยเป็นฐาน. วารสารนักบริหาร. 31(3),26-30.

Khammanee, T. (2014). Strategies of Teaching: Knowledge for Effective Learning Process Management.

Bangkok: Chulalongkorn University Press. (in Thai)