การทดลองออกแบบรูปด้านหน้าศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด

Main Article Content

พัชลลิตษร แก้วปีลา
กรุณา รักษวิณ
สุพักตรา สุทธสุภา

บทคัดย่อ

จังหวัดร้อยเอ็ดกำลังดำเนินการปรับปรุงอาคารศาลากลาง ตามนโยบายของการจัดระบบศูนย์ราชการ กำหนดให้ศาลากลางจังหวัดเป็นอาคารศูนย์กลางการปกครองส่วนภูมิภาคระดับจังหวัด และแสดงออกถึงอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น จังหวัดร้อยเอ็ดจึงมีแนวทางในการปรับปรุง โดยยังยึดรูปแบบของศาลากลางแบบจตุรมุขซึ่งเป็นแบบมาตรฐานจากส่วนกลาง ผนวกกับการออกแบบที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่น โดยใช้การพิจารณาองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่ปรากฏอยู่บนภาพด้านอาคารซึ่งเป็นวิธีการสื่อสารความหมายที่แฝงสู่การรับรู้ของประชาชน การศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งค้นหาองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่มีผลต่อการแสดงออกของอัตลักษณ์ซึ่งปรากฏบนภาพด้านอาคาร ด้วยวิธีการพิจารณาองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมบนภาพด้านอาคารที่มีผลต่อการรับรู้ จากทฤษฎีการรับรู้สามารถแบ่งระดับการพิจารณาเป็น 3 ระดับ คือ ระดับก้อนอาคาร (Mass-Form) ระดับองค์ประกอบอาคาร (Ornament) และระดับผิวอาคาร (Texture) โดยศึกษาใน 3 ขั้นตอน คือ 1) พิจารณาภาพด้านศาลากลางหลังเดิม 2) ภาพด้านอาคารต้นแบบที่แสดงอัตลักษณ์ท้องถิ่น และ 3) การถอดอัตลักษณ์เพื่อใช้ในการออกแบบ จนนำไปสู่การสร้างแบบจำลองภาพสามมิติของศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมศิลปากร. (2531). ปราสาทพนมรุ้ง. กรุงเทพ: อมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ.

ณัฎฐกิตติ์ เพ็ชรสุริยา. (2556). ความชื่นชอบรูปด้านหน้าอาคารแถวในเมืองเก่าลำปาง (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต), คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ติ๊ก แสนบุญ. (2557). ลักษณะขอมในเชิงช่างไทยอีสานร่วมสมัย. ศิลปวัฒนธรรม, (เมษายน 2557). สืบค้นเมื่อ 19 เมษายน 2560, จาก https://www.silpa-mag.com/history/article_8380

ธาดา สุทธิธรรม. (2544). ผังเมืองในประเทศไทย: ผังชุมชนและการใช้ที่ดินสายอารยะธรรมเขมรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (พิมพ์ครั้งที่1). ขอนแก่น: พิมพ์พัฒนา

นราธร สายเส็ง. (2560). ธรรมชาติของมนุษย์กับมุมมองเชิงพื้นที่. Veridian E-Journal, 10(1), 635-646.

นิติ เชื้อสถาปนศิริ. (2544). ความหมายทางการเมืองของลักษณะทางสถาปัตยกรรมของอาคารราชการไทย :กรณีศึกษาศาลากลางจังหวัด (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต), ภาควิชาการปกครอง, คณะรัฐศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วิมลสิทธิ์ หรยางกูร, กอบกุล อินทรวิจิตร, สันติ ฉันทวิลาสวงศ์ และ วีระ อินพันทัง (2536). พัฒนาการแนวความคิดและรูปแบบของงานสถาปัตยกรรม: อดีต ปัจจุบัน และอนาคต. กรุงเทพฯ: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์

สันต์ สุวัจฉราภินันท์, ทวีศักดิ์ เกียรติวีระศักดิ์ และ รัฏฐา ฤทธิศร. (2555). สัญวิทยา: การถอดรหัสและการประยุกต์อัตลักษณ์ไทยเพื่อเป็นแนวทางการออกแบบ. โครงการจัดประชุมวิชาการ ประจำปี2555 BERAC3 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 86-102. สืบค้นจาก http://www.berac.tds.tu.ac.th/BERAC/BERAC%203/8%20Sant%20Suwacharapinan%20et%20al.pdf

สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี. (2553). การประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ ครั้งที่2/2553. สืบค้นจาก http://www.cabinet.soc.go.th/soc/Program2-3.jsp?top_serl=224305

สุจิตต์ วงษ์เทศ. (2555). ร้อยเอ็ดมาจากไหน (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ชนนิยม.

อาภาภรณ์ วงศ์ลักษณพันธ์ (2556). การทดสอบการรับรู้รูปด้านหน้าอาคารชิโน-โปรตุกิส บนถนนถลาง จังหวัดภูเก็ต (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต), คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

อาภาภรณ์ วงศ์ลักษณพันธ์ (2557). การเปรียบเทียบการรับรู้รูปด้านหน้าอาคารต่างยุคของอาคารชิโน-โปรตุกีส บนถนนถลาง จังหวัดภูเก็ต, วารสารวิชาการ การออกแบบสภาพแวดล้อม, 1(1): 45-58.

Askari, A. H. and Dola, K. B. (2009). Influence of building façade visual element on its historical image: Case of Kuala Lumper city, Malaysia. Journal of Design and Built Environment, 5, 44-59.

Gifford, R., Hine, D. W., Muller-Clemm, W., JR, D. J. R., and Shaw, K. T. (2000). Decoding modern architecture: A lens model approach for understanding the aesthetic differences of architectures and laypersons, Journal of Environment and Behavior, 32(2), 163-187.

Herzog, T. R., Kaplan, S., and Kaplan, R. (1982). The predictation of preference for unfamiliar urban place. Journal of Population and Environment, 5(1), 43-59.

Imamoglu, C. (2000). Complexity. preference and familiarity: architecture and non-architecture Turkish students’ assesments of traditional and modern house façade. Journal of Environmental Psychology, 20(1), 5-16

Marina, M., and Rento, T. (2006). Aesthetic, perception and preference for historical and modern buildings. Journal of Cognitive Processing, 7(1), 66-67.

Mehrabian, A., and Russell, J. A. (1974). An approachto environmental psychology. Cambridge, MA: MIT press.

Russell, J. A., Ward, L. M., and Pratt, G. (1981). Affective quality attributed to environments: A factor analysis study, Journal of Environment and Behavior, 13(3), 259-288.

Stamps, A. E. (1999). Architectural detai, Van der Laan septaves and pixel counts. Journal of Design Studies, 20(1), 83-97

Stamps, A. E. (2000). Psychology and the Aesthetics of the Built Environment. New York: Kluwer Academic Publishers.

Tok, Y. S., Kaplan, I., and Taneli, Y. (2010). Photography in architectural education: A tool for assesing social aspects of the built environment. ScienceDirect Procedia Social and Behavioral Sciences, 2, 2583-2588. doi: 10.1016/j.sbspro.2010.03.377

Tze Ling Li. (2007). A study of ethic influence on the façade of colonial shophouse in Singapore: A case study of Telok Ayer in chinatown. (Ph.D.) University of Tokyo, Tokyo.